โบรกเกอร์ NordFX สามารถเสนออะไรให้กับนักเทรดเงินคริปโตได้บ้าง | การเปรียบเทียบระหว่างการเทรดคริปโตเคอเรนซีกับโบรกเกอร์และกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโต | ค่าเลเวอเรจที่ 1:1000 คือความสุขหรือฝันร้ายสำหรับนักเทรด
ในขณะที่โบรกเกอร์หลายแห่งรู้สึกหวั่นเกรงกับความผันผวนสูงจึงได้ล้มเลิกการให้บริการการเทรดคริปโตเคอเรนซีเป็นจำนวนมาก ในทางกลับกัน บริษัทโบรกเกอร์ NordFX ให้บริการลูกค้าด้วยอัตราค่าเลเวอเรจที่สูงถึง 1000 เท่า(!) มากกว่าเงินทุน ด้วยเหตุนี้ กำไรจากการธุรกรรมบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซีสกุลอื่นๆ จึงสูงได้ถึงหลายพันเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นกับนักเทรดผู้มีประสบการณ์เท่านั้น สำหรับนักเทรดมือใหม่แล้ว พวกเขาอาจใช้โอกาสนี้เป็นอาวุธทางการเงินมาทำลายตนเองได้
ข้อแตกต่างระหว่างโบรกเกอร์และตลาดแลกเปลี่ยนคือโบรกเกอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งในการเพิ่มขึ้นหรือการลดลงของค่าเงินคริปโต เช่น หากคุณซื้อบิทคอยน์ที่ราคา $20,000 บนตลาดแลกเปลี่ยน เดือนต่อมาราคาบิทคอยน์ปรับลดลงเหลือ $10,000 คุณจะมีทางเลือกสองทางคือ ขายทิ้งโดยรับเงินขาดทุนที่ 50% หรือรอและหวังว่าราคาบิทคอยน์จะปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับโบรกเกอร์แล้ว โชคดีที่มีสัญญาค่าความต่างในราคาที่เรียกว่า CFD ทำให้คุณสามารถทำกำไรแม้ในสถานการณ์ที่มูลค่าคริปโตเคอเรนซีตกต่ำจนกลายเป็นศูนย์
โดยเช่นเดียวกันกับหลายๆ อย่างในโลกการเงิน CFD ถูกสร้างขึ้นในประเทศอังกฤษและในตอนแรก CFD เป็นเพียงธุรกรรมการซื้อ/ขายหุ้น โดยไม่ต้องลงทะเบียนเป็นเจ้าของทำให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการชำระค่าธรรมเนียม
วิธีการเทรดนี้ได้กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วตามธรรมชาติ และก็เริ่มมีการทำสัญญาค่าความต่างในราคาสำหรับสินทรัพย์อื่นๆ เช่น สกุลเงิน โลหะมีค่า และสินค้าโภคภัณฑ์ และปัจจุบันก็รวมถึงคริปโตเคอเรนซี โดยในที่นี้ไม่มีการโอนสินทรัพย์จากผู้ขายให้กับผู้ซื้อจริงแต่อย่างใด นี่คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถทำเงินจากราคาที่ลดลงได้
หากพูดง่ายๆ สัญญาสำหรับค่าความต่างของราคาก็คือสิ่งที่คล้ายกันกับจำนวนเงินเดิมพันที่คุณวางไว้กับโบรกเกอร์ว่าราคาบิทคอยน์จะขยับสูงขึ้นหรือลดลง ในกรณีนี้ คุณเลือกเวลาที่การเดิมพันจะเริ่มขึ้นซึ่งก็คือเวลาเปิดตัวของธุรกรรมซื้อขายและเวลาปิดตัว และขึ้นอยู่กับคุณเองว่าธุรกรรมดังกล่าวจะมีระยะเวลานานเท่าใด เป็นหนึ่งนาที หนึ่งปี หรืออาจมากกว่านั้น
และหากในช่วงขณะใดก็ตามที่ราคาบิทคอยน์ได้ขยับถึง $20,000 คุณได้ตัดสินใจว่านี่คือค่าสูงสุดและราคาน่าจะปรับตัวลดลงในอนาคต คุณสามารถเปิดธุรกรรม CFD เพื่อขายได้ และเมื่อปิดการซื้อขายที่ $10,000 คุณจะไม่ขาดทุนแต่จะได้รับกำไร 50% เป็นต้น
แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องด้วยอัตราทดเลเวอเรจที่ 1:1000 กำไรของคุณจะไม่ใช่แค่ 50 เท่านั้นแต่สูงถึง 50,000%
เราขออธิบายให้มือใหม่ฟังสักนิดว่าค่าเลเวอเรจคือจำนวนเงินที่โบรกเกอร์ให้บริการกับลูกค้าโดยอัตโนมัติและโดยไม่มีหลักประกันใดๆ เพื่อใช้ในธุรกรรมในตลาดการเงิน ด้วยอัตราเลเวอเรจที่ 1:1000 นักเทรดหรือนักลงทุนสามารถทำการซื้อขายเป็นเงินจำนวนที่สูงถึง 1000 เท่าของเงินทุนต้นของนักเทรด
ดังนั้น การมีเงินเพียง $100 คุณก็มีโอกาสที่จะทำธุรกรรม CFD เป็นจำนวนเงินสูงถึง $100,000 ซึ่งก็คือคุณสามารถซื้อบิทคอยน์ 10 เหรียญ อีทีเรียม 100 เหรียญ ไลท์คอยน์ 500 เหรียญ และริพเพิล 100,000 (ปัจจุบัน NordFX ให้บริการการเทรดคริปโตเคอเรนซีหลักจำนวน 6 สกุล)
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงแค่เปิดบัญชีซื้อขาย ฝากเงินแค่ร้อยดอลลาร์ และหาพื้นที่ว่างในตู้เสื้อผ้าที่คอนโด เพราะอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าคุณจะต้องนำเงินล้านแรกมาใส่ในตู้แน่ๆ ใช่ไหม อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงกลับไม่ง่ายตามแวบแรกที่เห็น ความจริงก็คือหากราคาขยับในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับคุณ โบรกเกอร์จะปิดธุรกรรมของคุณทันที และเมื่อใดก็ตามที่เงินขาดทุนขยับถึงระดับ $100 และก็อาจเกิดขึ้นได้ในพริบตาเดียวเพราะว่าเงินจำนวนนี้เกิดจากราคาที่ขยับไปแค่ 0.1% เท่านั้น
นี่คือสิ่งที่ผู้ต่อต้านค่าเลเวอเรจสูงกล่าวไว้มาโดยตลอด โดยคนกลุ่มนี้มองว่าอัตราเลเวอเรจนี้จะนำไปสู่การขาดทุนเงินฝากทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยเหตุผลแล้ว มี “กลยุทธ์” การเทรดหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะนำไปสู่สถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งก็คือนักเทรดเปิดธุรกรรมเดียวด้วยเงินฝากทั้งหมด (!) และใช้ค่าอัตราเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:1000 และในกรณีนี้ก็ไม่ต้องเถียงเลยเพราะความเป็นไปได้ในการขาดทุนเป็นศูนย์ย่อมเป็น 100% หรืออย่างน้อย 99.99%
ค่าเลเวอเรจเป็นเพียงเครื่องมือ โบนัสเพิ่มเติม และทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับนักเทรดที่จะตัดสินใจใช้งานมันหรือไม่ และหากมีการใช้งานควรใช้ที่ระดับเท่าใด ไม่มีใครบังคับคุณได้
และตอนนี้เราจะให้ตัวอย่างง่ายๆ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าการใช้ค่าเลเวอเรจสูงนั้นมีประโยชน์อย่างไรแม้ในสถานการณ์การเทรดที่ยากเย็นมากที่สุด
สมมติว่าราคาปัจจุบันอยู่ที่ $10,000 คุณอยากทำธุรกรรมเป็นจำนวน 0.1 บิทคอยน์ โดยการจะทำธุรกรรมนี้ได้โดยไม่มีค่าเลเวอเรจ คุณจะต้องใช้เงินจำนวน $1000 (ในความเป็นจริงเราอาจต้องคำนวณค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์รวมอยู่ได้)
แต่ด้วยค่าอัตราทดเดียวกันที่ 1:1000 นี้ คุณจำเป็นต้องมีเงินเพียงหนึ่งดอลลาร์เท่านั้น และเงินอีก 999$ จะมีเป็นสำรองไว้ให้ในกรณีที่คุณตัดสินใจผิดพลาดในทิศทางการซื้อขาย และราคาได้ขยับไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม ในกรณีนี้ ด้วยวิธีการเฉลี่ยตำแหน่งซื้อขายที่ขาดทุน คุณจะมีโอกาสในการรอดพ้นจากการล้างพอร์ตมากกว่าเป็นอย่างมากและท้ายที่สุดก็ทำกำไรได้
หากราคาขยับไปในทิศทางที่คุณต้องการ กำไรจะมีค่าเท่าเดิมไม่ว่าจะมีอัตราเลเวอเรจหรือไม่มีเนื่องจากปริมาณการซื้อขายยังคงเท่าเดิมที่ 0.1 บิทคอยน์
ดังนั้น ขอทบทวนอีกครั้ง ค่าเลเวอเรจเป็นเพียงแค่เครื่องมือหนึ่ง และมันขึ้นอยู่กับนักเทรดเองเท่านั้นว่าจะใช้มันอย่างไร ความระมัดระวังของนักเทรด รวมถึงความหิวโหยทางการเงิน (เรียกอีกอย่างก็คือ ความโลภ นั่นเองซึ่งมักไม่นำไปสู่อะไรที่ดีทั้งสิ้น)
นอกจากนี้ เมื่อคุณใช้งาน CFD คุณต้องไม่ลืมอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์ ก็คือความสามารถในการจัดการความเสี่ยงโดยการเปิดตำแหน่งซื้อขายหลายธุรกรรมพร้อมๆ กัน บางส่วนใช้ซื้อบิทคอยน์และอีกบางส่วนก็ขาย หรือนักเทรดสามารถกำกับคริปโตเคอเรนซีหลายตัวในเวลาเดียวกัน โดยทำเงินจากค่าความต่างในราคาแม้จะมีความผันผวนของราคาต่ำ ซึ่งการทำกำไรนี้เป็นไปได้เพราะใช้ค่าเลเวอเรจสูงนั่นเอง
สุดท้ายนี้ เราขอเรียนให้ทราบเพิ่มเติมว่าการเทรดคริปโตเคอเรนซีของ NordFX เป็นไปบนแพล็ตฟอร์มการเทรดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกเรียกว่า MetaTrader4 จากผลการสำรวจล่าสุดโดยนิตยสาร Finance Magnates พบว่านักเทรดส่วนใหญ่ (61.44%) ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด และบนแพล็ตฟอร์มนี้มีการใช้งานตัวเลขดัชนีต่างๆ และพัฒนาหุ่นยนต์ช่วยเทรดมากมายขึ้นมาที่ไม่เพียงแต่ช่วยตัดสินใจในการเทรดแต่ยังทำให้นักเทรดสามารถทำการซื้อขายในโหมดอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย
บางทีทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจจะฟังดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดมือใหม่ แต่คุณสามารถทำความรู้จักกับวิธีการใช้งานโดยไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาทได้ เพียงแค่คุณเปิดบัญชีทดลองที่ NordFX หรือเรียกว่าตัวสาธิตการเทรดสำหรับนักเทรดซึ่งสามารถฝึกทดลองออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที และหลังจากที่คุณตัดสินใจเริ่มเทรดเงินจริง คุณจะสามารถฝากเงินบนบัญชีซื้อขาย รวมถึงถอนเงินและรับกำไรไม่เฉพาะในเงินสกุลดอลลาร์เท่านั้น ยังรวมถึงเงินสกุลบิทคอยน์และอีธีเรียมอีกด้วย เงินสกุลเหล่านี้กำลังเป็นที่สนใจของนักเทรดและนักลงทุนทั้งขาจรและขาประจำโดยเฉพาะผู้ที่เคยชินกับการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตมาก่อน
