ตุลาคม 27, 2018
อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD เมื่อให้คำทำนายคู่นี้ เราได้คาดการณ์ว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์ใดในปฏิทินเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก และเราก็ทำนายได้ถูกต้อง โดยตลาดไม่ตอบสนองเท่าใดนักต่อคำแถลงของนายมาริโอ ดรากิห์ ประธานธนาคารกลางยุโรป และข้อมูลค่า GDP ของสหรัฐฯ ซึ่งปรากฏว่าอยู่ที่ 0.2% สูงกว่าที่ได้ทำนายไว้
คำทำนายที่สองของเราของสัปดาห์ที่ที่ผ่านมาคือการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งได้รับการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% และค่าเงินดอลลาร์ก็ได้แข็งค่าขึ้นต่อเงินยูโรประมาณ 200 จุด ราคาคู่ EUR/USD ได้ขยับลงอย่างต่อเนื่องตามขั้นบันไดตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนราคาถึงระดับ 1.1335 หลังจากนั้น สกุลเงินยูโรก็ฟื้นตัวขึ้นมา 65 จุด และราคาปิดตัวท้ายสัปดาห์ที่โซน 1.1400
- GBP/USD ในสัปดาห์ที่แล้วมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 90% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าค่าเงินปอนด์อังกฤษจะอ่อนค่าลงต่อไป คำทำนายนี้ปรากฏออกมาว่าถูกต้องอย่างแม่นยำ และเงินปอนด์อ่อนตัวลงประมาณ 300 จุด ลักษณะกราฟของคู่นี้แทบจะเป็นลักษณะเดียวกันกับกราฟ EUR/USD โดยราคาขาลงมาพร้อมกับการปรับตัวของราคาเป็นระยะๆ จนกระทั่งราคาปิดตัวในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ 1.2825
- USD/JPY เมื่อให้คำทำนายสกุลเงินยูโร ผู้เชี่ยวชาญต่างได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ในขณะที่สำหรับคู่นี้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นไปในทางตรงกันข้าม โดยได้คาดการณ์ว่าเงินเยนจะแข็งตัวขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางเหตุการณ์สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ระดับ 112.00 และ 111.65 ซึ่งราคาได้ขยับถึงระดับดังกล่าวก่อนที่จะถอยลดลงมาที่ 111.37 และปิดตลาดที่โซน 111.88
- คริปโตเคอเรนซี ตามที่เราได้ทำนายไว้ หลังจากที่ตลาดเริ่มนิ่งสงบลงหลังจากการปล่อยข่าวปลอมเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ตลาดก็เริ่มเคลื่อนที่อยู่ในภาวะแข็งตัว โดยพบความผันผวนสูงสุดในราคา Ripple (ประมาณ 8%) ในขณะเดียวกัน ราคา Bitcoin, Litecoin และ Ethereum มีการเคลื่อนที่ที่ค่อนข้างไม่หวือหวาเท่าใดนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วไปและสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ราคา BTC/USD เคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ ที่ $6,460-6,655 แม้ว่าจะมีเหตุการณ์แฮ็คตลาดคริปโตอีกแห่งหนึ่งเกิดขึ้นก็ตาม
เรากำลังพูดถึงการโจมตีของกลุ่มแฮ็คเกอร์ Lazarus ของเกาหลีเหนือ ที่แฮ็คตลาดแลกเปลี่ยนสวิส Trade.io โดยทั่วไปแล้ว ตามรายงานของ CipherTrade จำนวนการโจรกรรมเงินคริปโตในปี 2018 เพิ่มขึ้น 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมูลค่ารวมของเงินที่ถูกโจรกรรมไปได้นั้นรวมแล้วเกือบถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การโจรกรรมประมาณ 60% มาจากกลุ่มแฮ็คเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงรอคอยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อไป แม้ว่ากลุ่มส่วนใหญ่จะไม่ต่างจากอีกกลุ่มเท่าใดนักที่ 55% ต่อ 45%
ในสัปดาห์หน้าจะมีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ โดยเราจะให้ความสำคัญในสองเหตุการณ์หลัก อย่างแรกคือการประกาศสถิติค่า GDP ของยูโรโซนประจำไตรมาสที่ 3 ในวันอังคารที่ 30 ตุลาคมนี้ หากตัวเลขออกมาไม่ต่ำกว่าหรืออย่างน้อยอยู่ที่ระดับเดียวกันกับตัวเลขในไตรมาสที่ 2 ก็อาจจะส่งผลดีต่อค่าเงินยูโร
สำหรับค่าเงินดอลลาร์ ข้อมูลตลาดแรงงาน (รวมถึงดัชนี NFP) จะมีการประกาศในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายนซึ่งอาจจะช่วยเกื้อหนุนเงินดอลลาร์
ในขณะที่กำลังเขียนบทวิเคราะห์นี้ ดัชนีเทรนด์ส่วนใหญ่และออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณเป็นสีแดง อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์จำนวน 10% ได้ให้สัญญาณแล้วว่าราคาคู่นี้อยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไปในกรอบ D1 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าน่าจะมีการปรับตัวของราคาครั้งใหญ่ ด้วยเหตุนี้ดัชนีในการวิเคราะห์กราฟจึงบ่งชี้ว่าราคาน่าจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 1.1450 หรือสูงขึ้นไปอีก 80 จุด ไปยังที่ระดับ 1.1530 และจากนั้นจึงจะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ขาลง
เป้าหมายของตลาดหมีคือราคาต่ำสุดของปีที่ 1.1300 ซึ่งเป็นราคาของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยราคาไม่น่าจะขยับลงไปต่ำกว่าระดับดังกล่าวก่อนช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ และการประชุมของธนาคารเฟ็ดสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน แต่ก็ไม่ควรตัดความเป็นไปได้ที่ราคาจะขยับทะลุระดับแนวรับดังกล่าว
- GBP/USD ค่าเงินปอนด์ขยับถึงราคาต่ำสุดของเดือนกันยายนแล้ว เป้าหมายถัดไปคือราคาต่ำสุดของปี 2018 ที่ 1.2660 และผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% ก็มองว่าไม่น่าจะมีอุปสรรคอะไรมาขวางกั้นในการไปถึงระดับดังกล่าว
ปัญหาเรื่องประเด็น Brexit ก็ยังคงไม่หายไป เศรษฐกิจประเทศอยู่ในภาวะซบเซาและคำขู่ของนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ที่จะลาออกก็ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ค่าเงินปอนด์อังกฤษเริ่มสูญเสียความน่าดึงดูดใจต่อนักลงทุนอย่างรวดเร็วและราคาเปลี่ยนสถานะจากสกุลเงินลี้ภัยเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวน 30% ยังคงหวังว่าราคาจะรีบาวด์กลับขึ้นมาแม้ในช่วงสภาวะดังกล่าว ราคาขาขึ้นอาจได้รับผลมาจากการที่ผู้เล่นรายใหญ่กำหนดรับกำไรประจำเดือนกับค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงข่าวเชิงบวกจากการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน ด้วยเหตุนี้ การรีบาวด์ของราคาจึงอาจสามารถผลักให้ราคากลับไปที่โซน 1.3045-1.3255 โดยมีระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุดคือ 1.2930
ผลการวิเคราะห์ดัชนีสำหรับคู่นี้แทบจะซ้ำกันเกือบ 100% กับผลการวิเคราะห์ดัชนีของคู่ยูโร/ดอลลาร์ โดยตัวบ่งชี้เกือบทั้งหมดให้สัญญาณสีแดง และมีเพียงออสซิลเลเตอร์ 10% ที่ให้สัญญาณว่าค่าเงินปอนด์ถูกขายมากเกินไป
ในขณะที่การวิเคราะห์กราฟให้มุมมองที่ประนีประนอมมากกว่า โดยคาดว่าราคาจะขยับไปที่ช่องด้านข้าง 1.2800-1.2930 เป็นเวลาสองหรือสามวัน
- USD/JPY เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม แนวโน้มขาลงของราคาคู่นี้สิ้นสุดลงและราคาวกกลับตัวขยับขึ้นมาจนตัดผ่านระดับแนวรับ/แนวต้านหลักที่ 111.80 ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (70%) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟเชื่อว่านี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นและราคาจะปรับตัวไปที่ 112.85 เป็นอย่างน้อย โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 113.35 และ 114.55
นักวิเคราะห์ที่เหลือ 30% โหวตให้คำทำนายอีกมุมมองหนึ่ง พวกเขาหวังว่าการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและถ้อยแถลงของประธานฮารุฮิโกะ คุโรดะ ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 31 ตุลาคมนี้ น่าจะมีส่วนช่วยเกื้อหนุนค่าเงินเยนญี่ปุ่นให้ขยับถึงโซน 110.75-111.40 ได้สำเร็จ
- คริปโตเคอเรนซี จำนวนการค้นหาคริปโตเคอเรนซีผ่าน Google ได้ลดลงกว่า 93% ในช่วงสิบเดือนของปีนี้ มูลค่ารวมของตลาดคริปโตผันผวนอยู่ที่ประมาณ $2 แสนล้านดอลลาร์มาเป็นเวลามากกว่าสองเดือน ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนมีความสนใจลดลงในทั้งบิทคอยน์และตลาดคริปโตโดยรวม
ตลาดจะสามารถฟื้นตัวได้เฉพาะในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่สำคัญจริงๆ เกิดขึ้นเท่านั้น มิเช่นนั้น ราคา BTC/USD ก็จะยังคงเคลื่อนที่ต่อไปในช่วงแคบๆ ที่ $6,325-6,660 โดยมีภาวะตลาดหมีครอบงำอยู่ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ $6,780 และแนวรับก็อยู่ที่ระดับทำกำไรจากการขุดเหมืองเหมือนเช่นเคยที่ $6,100
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
