มีนาคม 7, 2022

บทความฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อนักเทรดมือใหม่เป็นหลัก แต่อาจมีเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่พอมีประสบการณ์ในการเทรดในตลาดการเงิน เราจะพิจารณาหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับทั้งตัวเลือกของกลยุทธ์และโอกาสการทำกำไรของธุรกรรมการเทรด เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับคู่สกุลเงินกัน

คู่สกุลเงินคืออะไรและเทรดอย่างไร

คู่สกุลเงินเป็นเครื่องมือหลักในการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ ประกอบด้วยเงินตราสองสกุลจากประเทศต่าง ๆ และในเวลาที่ดำเนินธุรกรรมนั้น นักเทรดจะซื้อเงินหนึ่งสกุลและขายอีกหนึ่งสกุลเสมอ สกุลเงินแรกในคู่เงินเรียกว่า ค่าเงินพื้นฐาน (base currency) และสกุลเงินที่สองคือ ค่าเงินอ้างอิง (quote currency) ค่าเงินพื้นฐานคือค่าเงินที่ราคาหน่วยจะวัดโดยใช้หน่วยของค่าเงินอ้างอิงเสมอ และในทางกลับกัน ค่าเงินอ้างอิงคือหน่วยของค่าเงินที่แสดงถึงราคาของค่าเงินพื้นฐาน

การเทรดฟอเร็กซ์เป็นเรื่องของวัฎจักรแบบปิด กล่าวคือ เมื่อเปิดคำสั่งเทรดคู่ AAA/BBB คุณจะซื้อสกุลเงิน AAA โดยจ่ายด้วยอีกสกุลเงินหนึ่งคือ BBB จากนั้น คุณจะต้องปิดคำสั่งเพื่อรับกำไรหรือปิดการขาดทุนในธุรกรรมนี้ หรือเรียกได้ว่าดำเนินธุรกรรมในทางตรงกันข้าม โดยขาย AAA และรับ BBB

สมมติตัวอย่าง EUR/USD เวลาที่คุณเปิดเทอร์มินอลการเทรดของคุณ คุณจะเห็นราคาอ้างอิงปัจจุบันอยู่ที่ 1.1500 นี่หมายความว่า หากคุณเปิดคำสั่งเทรดซื้อ คุณจะซื้อ EUR ด้วยเงิน USD 1.1500 ต่อ 1 EUR และหากคุณปิดคำสั่งนั้นในภายหลัง เมื่อราคาเพิ่มขึ้นเป็น 1.1600 คุณจะดำเนินธุรกรรมในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ คุณจะขายยูโรเพื่อแลกเป็นดอลลาร์ และคุณจะได้รับกำไรตามจำนวนดังกล่าว เพราะคุณจะได้รับเงินไม่ใช่ 1.1500 แต่เป็น 1.1600 USD จากเงิน 1 EUR

เมื่อคุณเปิดคำสั่งขาย ทุกอย่างจะกลับกัน กล่าวคือ คุณจะขายเงินยูโรและซื้อดอลลาร์ โดยใช้จ่ายเงิน 0.87 EUR เพื่อซื้อ 1 USD (1/1.1500 = 0.87) และหากคุณจะขาดทุนในขณะนี้ ถ้าหากคุณปิดคำสั่งเทรดที่อัตราแลกเปลี่ยน 1.1600 เพราะคุณจะได้เงินคืนไม่ใช่ 0.87 แต่เป็น 0.86 EUR (1/1.1600=0.86) ต่อหนึ่งดอลลาร์ เป็นต้น

วิธีเลือกคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเทรดที่ดีที่สุด1 

คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและน้อยที่สุด

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์มีมากมายหลายคู่ โลกเราทุกวันนี้มีค่าเงินกว่า 180 สกุล ดังนั้น จำนวนคู่ที่สามารถผสมผสานกันได้ก็มีถึง 16,110 คู่สกุลเงิน การจัดเรียงคู่สกุลเงินจะมีรูปแบบเหมือนกันเสมอในทุกโบรกเกอร์ เนื่องจากเป็นการจัดเรียงที่ได้รับการอนุมัติและควบคุมโดย ISO (องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน) แน่นอนว่าในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีโบรกเกอร์ไหนที่ให้บริการทั้งหมด 16,110 คู่ เนื่องจากมันมีต้นทุนสูงและมีความยากทางเทคนิคในการคงสภาพคล่องที่ต่อเนื่องและให้บริการราคาที่เป็นปัจจุบัน (ลองนึกถึงหน้าจอที่เต็มไปด้วยกราฟกว่าหมื่นกราฟ) และไม่มีใครจำเป็นต้องใช้มันในระยะยาว โดยเฉพาะนักเทรด นักเทรดทั่วไปนิยมเทรดไม่กี่สิบคู่เท่านั้น และความนิยมนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งเราจะมาพิจารณากันด้านล่างนี้

คู่ตัวอย่างเช่น SZL/AWG (Espatian lilangeni ต่อ Aruba florin) อาจเป็นคู่ที่ตัดออกจากการพิจารณาไปได้เลย เป็นต้น เนื่องจากไม่มีธุรกรรมใด ๆ กับคู่นี้เลย หากเราพูดถึงคู่สกุลเงิน 20 อันดับแรกที่ให้บริการในเทอร์มินอลการเทรด MetaTrader-4 (MT4) คะแนนความนิยมในปี 2021 มีดังนี้ (ตัวเลขเหล่านี้แม่นยำในการสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ในปีที่แล้วเช่นกัน):    

EUR/USD - 27.95% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด, USD/JPY - 13.34%, GBP/USD - 11.27%, AUD/USD - 6.37%, USD/CAD - 5.22%, USD/CHF - 4.63%, NZD/USD - 4.08%, EUR/JPY - 3.93%, GBP/JPY - 3.57%, EUR/GBP - 2.78%, AUD/JPY - 2.73%, EUR/AUD - 1.8%, EUR/CHF - 0.96%, NZD/JPY - 0.93 %, GBP/AUD - 0.89%, GBP/CAD - 0.81%, EUR/NZD - 0.78%, AUD/CAD - 0.76%, GBP/CHF - 0.73%, AUD/CHF - 0.70%.

ตัวเลขข้างต้นนี้เป็นตัวเลขเฉลี่ยในอุตสาหกรรมการเงิน และไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะเทรดคู่สกุลเงินที่ยอดนิยมอย่างยิ่งอย่าง EUR/USD เสมอไป (แม้ว่าค่าสเปรดของคู่นี้จะต่ำที่สุด) สถิติจาก NordFX ชี้ให้เห็นว่า นักเทรดที่ทำงานกับคู่สกุลเงินปอนด์อังกฤษและค่าเงินของทางภูมิภาคแปซิฟิกมักได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด (GBP/USD, GBP/AUD, GBP/JPY, AUD/JPY, AUD/NZD) แนวโน้มที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของสองปัจจัย ได้แก่: 1) ความผันผวนสูงของคู่เงินปอนด์ ซึ่งช่วยให้คุณทำกำไรได้ดีในระยะเวลาอันสั้น 2) ปัจจัยเรื่องเขตแดน เช่น คู่ AUD/JPY หรือ AUD/NZD มักเป็นที่ใช้งานโดยนักเทรดที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณนี้มากกว่า

เหตุผลของความนิยมในคู่สกุลเงิน

เราเพิ่งได้พูดถึงเหตุผลสองประการ ซึ่งได้แก่ ความผันผวนและกิจกรรมการเทรดในคู่สกุลเงินโดยขึ้นอยู่กับภูมิภาค เช่น คู่ AUD/JPY และ AUD/NZD เป็นคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงตลาดเอเชีย ในขณะที่ตลาดฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ปิดทำการอยู่ การเทรดคู่ EUR/USD, EUR/GBP, EUR/CHF, GBP/USD, GBP/CHF และคู่อื่น ๆ ในภูมิภาคนี้จะเริ่มมีกิจกรรมมากขึ้นในช่วงตลาดยุโรป และช่วงเวลาที่มีการซื้อขายมากที่สุดนั้นเป็นช่วงเวลาที่บรรจบกันระหว่างตลาดยุโรปและอเมริกา ในขณะที่ตลาดยุโรปยังไม่ปิดทำการ และตลาดอเมริกาเริ่มเปิดทำการแล้ว (เวลา 15:00 นาฬิกา ตามเวลา UTC หรือ 22:00 นาฬิกา ตามเวลาไทย) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปริมาณการซื้อขายขึ้นสู่ระดับสูงสุด และในช่วงนี้ก็มีธุรกรรมกับคู่ดังเช่น USD/CAD

ก่อนที่ค่าเงินยูโร (EUR) จะกำเนิดขึ้น คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือ USD/DEM เนื่องจากค่าเงินมาร์คเยอรมันนั้นเป็นสกุลเงินสำรองขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอับดับสองของโลกรองจากดอลลาร์สหรัฐ และอันดับที่สองนี้ก็กลายเป็นของยูโรหลังจากเงินมาร์คเยอรมันยุติการใช้งาน

ทั้งนี้ สภาพคล่องสูงสุดนั้นมาจากสกุลเงินของประเทศที่เศรษฐกิจมีการพัฒนามากที่สุด ซึ่งก็คือสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยจำนวนธุรกรรมการเทรดมากที่สุดนั้นเกิดกับดอลลาร์และยูโร และสกุลเงินทั้งสองล้วนเป็นสกุลเงินสำรองในธนาคารกลางเกือบทุกประเทศบนโลก

สภาพคล่องที่สูงดังกล่าวหมายความว่า สกุลเงินเหล่านี้สามารถซื้อและขายได้ง่าย เนื่องจากทั้งสองค่าเงินนั้นเป็นที่ต้องการโดยธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ กองทุน อุตสาหกรรม และบริษัทต่าง ๆ รวมถึงนักลงทุนเอกชน กล่าวได้ว่าเราสามารถหาทั้งผู้ซื้อและผู้ขายดอลลาร์และยูโรได้ง่าย ๆ จึงช่วยให้คุณดำเนินธุรกรรมโดยมีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด (คราวนี้ลองมานึกดูว่าจะต้องใช้ต้นทุนเท่าไรถึงจะหาใครสักคนในประเทศเอสวาตินีและอารูบา และโน้มน้าวให้พวกเขาแลกเงิน lilangeni และ florins ของพวกเขา)

ดังนั้น คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงสุดจึงมีเงื่อนไขการเทรดที่เป็นมิตรมากที่สุดสำหรับนักเทรด คือมีค่าสเปรดต่ำ ค่าสวอปต่ำ (ค่าธรรมเนียมสำหรับการถือธุรกรรมข้ามไปยังวันถัดไป) ความรวดเร็วในการดำเนินธุรกรรมสูง และความแม่นยำในการอ้างอิงราคาสูงส ปัจจัยประการหลังนี้ช่วยในการหลีกเลี่ยงช่องว่างของราคาและส่งผลดีต่อความแม่นยำในการอ่านอินดิเคเตอร์และการทำงานของที่ปรึกษาการเทรด (expert advisors)

นอกจากนี่้ นักเทรดที่ใช้งานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานก็ไม่มีปัญหาในการศึกษาบทวิเคราะห์รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญและการคาดการณ์ค่าเงินหลักที่หาอ่านได้ตามทั่วไป แต่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาบทวิเคราะห์คาดการณ์ของค่าเงินแปลก ๆ เช่น lilangeni เป็นต้น เช่นเดียวกันกับ การใช้กลยุทธ์การเทรดที่อธิบายในตำราการเทรดและคู่มือฟอเร็กซ์ต่าง ๆ

คู่สกุลเงินที่นักเทรดมือใหม่ควรเลือก

เราได้อธิบายหลายปัจจัยหลักที่อาจส่งผลต่อการเทรดอย่างประสบความสำเร็จในหัวข้อก่อนหน้า แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการพิจารณาความรู้และประสบการณ์ของนักเทรด คุณลักษณะทางจิตวิทยา (ความใจเย็นหรือความตื่นเต้น) ความต้องการและความสามารถที่จะเรียนรู้ เวลาที่สามารถจัดสรรให้กับการเทรด ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อการเลือกใช้กลยุทธ์และสไตล์การเทรด ไม่ว่าจะเป็นแบบ pipsing, scalping, intraday ธุรกรรมระยะสั้น และระยะยาว และการพิจารณาความชอบของนักเทรดต่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐานก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

แล้วเราควรเลือกคู่ไหน? นักเทรดผู้มีประสบการณ์ไม่จำเป็นต้องรับคำแนะนำในที่นี้ พวกเขารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว สำหรับมือใหม่ หากเราวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อการศึกษาและคู่มือต่าง ๆ ที่หลากหลาย ตำราต่าง ๆ มักแนะนำให้เราให้ความสนใจกับคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องและเป็นที่นิยมมากที่สุด คู่เหล่านี้ไม่ค่อยอ่อนไหวต่อเรื่องน่าประหลาดใจ จึงช่วยให้คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์ที่เลือกกับข้อมูลในอดีตได้ลึกซึ้งมากขึ้น และคู่เงินเหล่านี้ก็มีเงื่อนไขการเทรดที่ดีมากที่สุด

***

ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกคู่สกุลเงินใด หรือกลยุทธ์ใด เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณพัฒนาทักษะการเทรดของตนเองบนบัญชีทดลองก่อน และจากนั้นค่อยเริ่มกับธุรกรรมกับเงินจริง แม้ว่าคุณจะมีแค่ค่าเงิน lilangeni และ florins ในกระเป๋า แต่นี่ก็ยังเป็นเงินจริงอยู่ดี ซึ่งก็คงน่าเสียดายถ้าต้องสูญเสียเงินในกรณีที่ทำพลาด

NordFX


« บทความมีประโยชน์
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)