EUR/USD: The Dollar Soars
Last week saw two significant events: the first shocked market participants, while the second passed without surprises. Let's examine the details in order.
EUR/USD: The Dollar Weakness Puzzle
What transpired with the EUR/USD pair last week? It behaved as expected on Monday, 01 April. However, starting from Tuesday, the situation deviated. Let's delve into the details. On the first day of April, data on business activity in the US industrial sector from the ISM for March showed the economy is on the rise: PMI increased from 47.8 to 50.3 points, crossing the 50-point threshold that separates growth from contraction. This marked the end of a downward trend lasting over 15 months. With this sector accounting for over 10% of the US GDP, the PMI growth is a vital indicator of an economy that easily withstands high interest rates. Thus, logically, this data benefited the dollar, pushing the pair to 1.0730 - its lowest since 15 February. The escalation of tensions in the Middle East also supported the strengthening of the American currency as a safe haven.
EUR/USD: สวิตเซอร์แลนด์ช่วยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
เหตุการณ์สำคัญหลักของสัปดาห์ที่ผ่านมาแน่นอนว่าเป็นการประชุมของคณะกรรมการ FOMC (คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน) ของธนาคารเฟดสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม และเป็นไปอย่างที่คาดไว้ ธนาคารเฟดสหรัฐฯ ตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 23 ปีที่ 5.50% เป็นครั้งที่ห้าติดต่อกัน เนื่องจากมีการคาดการณ์ดังกล่าวไว้อยู่แล้ว ผู้เล่นในตลาดจึงมีความสนใจกับการแถลงความเห็นและการคาดการณ์ของผู้บริหารธนาคารเฟดมากกว่า คำแถลงที่สำคัญที่สุดนั้นมาจากนาย Jerome Powell ประธานธนาคารเฟด โดยคำแถลงที่สำคัญที่สุดมาจากประธานเฟด ผู้กล่าวถึงการพิจารณาการลดอัตราดอกเบี้ยสามระยะในปีนี้ รวมทั้งหมด 75 จุดพื้นฐาน (bps) โดยมีการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวที่ถูกปรับขึ้นจาก 2.50% เป็น 2.60%
EUR/USD: เงินเฟ้อที่ดื้อดึงไม่ยอมผ่อนลง
ผู้เล่นในตลาดในสัปดาห์ที่แล้วตั้งตารอสถิติเงินเฟ้อจากสหรัฐฯ การประชุมของคณะกรรมการ FOMC (คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารเฟด) ของธนาคารเฟดมีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 20 มีนาคม และตัวเลขเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการอย่างแน่นอน นาย Jerome Powell ประธานธนาคารเฟดได้กล่าวไม่นานมานี้ว่า ต้องการหลักฐานการยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวอย่างยั่งยืนก่อน จึงจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลักฐานยืนยันดังกล่าวนั้นยังไม่ปรากฏให้เห็น สถิติที่ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า แทนที่ราคาจะลดลงกลับเพิ่มขึ้น
EUR/USD: สัปดาห์ที่เลวร้ายสำหรับดอลลาร์
สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีอีเวนต์หลักคือการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ ธนาคารกลางยุโรปได้ตัดสินใจคงนโยบายการเงินปัจจุบัน รักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50% เหมือนเดิม ท่าทีนี้ยิ่งยืนยันความมุ่งมั่นในการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมาย ECB ต้องการให้แน่ใจอย่างชัดเจนว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังไปสู่เป้าหมายที่ 2.0% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.6%
EUR/USD: กระทิงอ่อนแอ vs. หมีอ่อนแอ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา EUR/USD เทรดอยู่ในกรอบแคบ ๆ มาตลอด ข่าวต่าง ๆ ช่วยดันยูโรให้ขึ้นไปยังระดับแนวต้านที่ 1.0865 ในขณะที่ข่าวในทางบวกของฝั่งดอลลาร์พาราคาคู่นี้กลับมายังแนวรับที่ 1.0800 อย่างไรก็ตาม ทั้งฝั่งกระทิงและหมีต่างไม่มีกำลังมากพอที่จะพาราคาทะลุแนวรับและแนวต้านของทั้งสองฝั่งได้
EUR/USD: น้ำเสียงท่าทีของ ECB สวนทางกับดอลลาร์
สถิติดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ในสหรัฐฯ ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ออกมาเกินความคาดหมาย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) บ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อเชิงอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นในประเทศ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินอเมริกันล้มเหลวที่จะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม ดัชนีดอลลาร์ (DXY) เริ่มลดตัวลงตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในขณะที่ EUR/USD ไต่ตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
EUR/USD: สัปดาห์แห่งสถิติที่หลากหลาย
สถิติเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกมาหลากหลายทั้งฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป คู่ EUR/USD จึงไม่สามารถฝ่าทะลุทั้งแนวรับที่ 1.0700 หรือแนวต้านที่ 1.0800 โดยราคายังคงขยับอยู่ในกรอบด้านข้างแคบ ๆ ต่อไป
EUR/USD: ดอลลาร์ร่วงลง แต่สัญญาว่าจะรีบาวด์
ในสัปดาห์ที่แล้ว เราไม่ค่อยเห็นการประกาศรายงานสถิติเชิงมหภาคที่สำคัญมากเท่าไรนัก ผู้เล่นในตลาดคาดหวังปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ ๆ โดยทำการวิเคราะห์ตลาดแรงงานสหรัฐฯ และคำแถลงจากผู้บริหารธนาคารเฟดสหรัฐฯ
EUR/USD: แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่าเพิ่มขึ้น
ตลอดเดือนมกราคม ดัชนีหลายตัว เช่น GDP อัตราการจ้างงาน และยอดค้าปลีกต่างเน้นย้ำตรงกันถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภัยของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเบาบางลง และชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยสูงไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจมากนัก ผู้เล่นในตลาดเฝ้ารอการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน (FOMC) ของธนาคารเฟดสหรัฐฯ อย่างกระตือรือร้น ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 31 มกราคม ท่ามกลางสถิติทางเศรษฐกิจในทางบวกเหล่านี้
EUR/USD: เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีเซอร์ไพรส์
กิจกรรมที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์ที่แล้วเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม ในวันดังกล่าว ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้จัดการประชุมขึ้น และมีการประกาศดัชนี GDP เบื้องต้นของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2023
EUR/USD: เหตุผลเบื้องหลังการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่ไม่ค่อยมีสถิติเศรษฐกิจมหภาค ความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดโดยหลักแล้วขึ้นอยู่กับคำกล่าวแถลงที่งานประชุม World Economic Forum (WEF) ในเมืองดาโวส ทั้งนี้ ควรให้ข้อสังเกตนิดหนึ่งว่างานประชุมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่รีสอร์ทสกีในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นที่ที่ผู้แทนระดับโลกจากกว่า 120 ประเทศมารวมตัวกัน ท่ามกลางเกล็ดหิมะที่เป็นประกายสะท้อนแสงแดด ผู้นำระดับโลกได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ในปีนี้ การประชุมครั้งที่ 54 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ถึง 19 มกราคมที่ผ่านมา
EUR/USD: ตลาดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารเฟด
● เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 เราได้เผยแพร่การคาดการณ์ของเราสำหรับ EUR/USD ของปีนี้ ส่วนตอนนี้เรากลับมายังรีวิวประจำสัปดาห์ทั่วไป ซึ่งกลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX ได้จัดทำมากว่าสิบปีแล้ว
ตามสถิติแล้ว USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น) คือหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ สภาพคล่องที่สูงของคู่นี้ช่วยรับประกันค่าสเปรดที่แคบและเงื่อนไขการเทรดที่เป็นมิตร แปลว่านักเทรดสามารถเข้าและออกคำสั่งเทรดด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ นอกจากนี้ ราคาคู่นี้ยังแสดงความผันผวนที่สูงมาก จึงให้โอกาสการทำกำไรที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในการเทรดระยะสั้นและระยะยาว
คำถามสำคัญปรากฏขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เมื่อฟองสบู่คริปโตใกล้จะแตก ต่อมาบิทคอยน์ก็ค่อย ๆ เข้ามาอยู่ทั้งในความคิดและพอร์ตของนักเทรดและนักลงทุนหลายคน ทองคำดิจิทัลเริ่มแข่งขันกับทองคำจริง รวมถึงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ จนเป็นคู่แข่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ตามธรรมเนียม เราจะเผยแพร่บทวิเคราะห์สกุลเงินจากสถาบันการเงินระดับโลกในช่วงส่งท้ายปีเก่าและขึ้นปีใหม่ เราคงธรรมเนียมปฏิบัตินี้มาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่แค่ช่วยให้เรามองการณ์ไกลไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ยังได้สะท้อนดูการคาดการณ์ในอดีตโดยผู้เชี่ยวชาญและประเมินความแม่นยำของพวกเขาด้วย
EUR/USD: การกลับตัวของนโยบายสายพิราบของธนาคารเฟด
ชะตากรรมของ EUR/USD ถูกกำหนดโดยสองเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว คือ การประชุมของ FOMC (คณะกรรมการที่กำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารเฟด) และการประชุมของสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจัดขึ้นในหนึ่งวันถัดมา ผลปรากฏว่ายูโรมีชัยชนะ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ราคาคู่นี้ขยับขึ้นมาเหนือ 1.1000
EUR/USD: สงครามดอกเบี้ยยังคงไม่จบ
ตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่ธนาคารกลางติดตามอย่างใกล้ชิดเมื่อทำการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย มองย้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้นหลังการประกาศสถิติเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมในสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นอย่างมาก และพอร์ตหุ้นและพันธบัตรดั้งเดิมให้ผลตอบแทนสูงสุดในรอบ 30 ปี! EUR/USD เริ่มต้นสัปดาห์ที่ 1.0516 และแตะระดับสูงสุดในรอบเดือนวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ 1.1016
EUR/USD: ธันวาคม – เดือนที่น่ากลัวสำหรับดอลลาร์
ใครจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินก่อนกัน ระหว่างธนาคารเฟด (FRS) หรือธนาคารกลางยุโรป (ECB)? การถกเถียงในเรื่องนี้ยังคงไม่จบ และเห็นได้ชัดเจนในกราฟราคา สถิติจากสัปดาห์ที่แล้วไม่ช่วยให้ EUR/USD ยืนเหนือระดับสำคัญที่ 1.1000 ได้สำเร็จ ทุกอย่างเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน เมื่อมีการประกาศสถิติเงินเฟ้อในเยอรมนี ดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้น (CPI) รายปีอยู่ที่ 3.2% ซึ่งต่ำกว่าทั้งการคาดการณ์ที่ 3.5% และตัวเลขครั้งก่อนหน้าที่ 3.8% ในตัวเลขรายเดือน ดัชนี CPI เยอรมนีติดลบมากขึ้นที่ -0.4% (จากการคาดการณ์ที่ -0.2% และตัวเลขครั้งก่อนหน้าที่ 0.0%)
EUR/USD: วันขอบคุณพระเจ้าและสัปดาห์แห่งความขัดแย้ง
ก่อนหน้านี้ดอลลาร์สหรัฐฯ เจอแรงกดดันสำคัญเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน หลังจากมีการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลงจาก 0.4% เหลือ 0% (m/m) และตัวเลขรายปีร่วงลง 3.7% เหลือ 3.2% ดัชนี Core CPI ในช่วงเวลาเดียวกันลดลงจาก 4.1% เหลือ 4.0% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 ตัวเลขนี้ส่งแรงสะเทือนต่อดัชนีดอลลาร์ (DXY) จาก 105.75 ลงมาที่ 103.84 การคาดการณ์จาก Bank of America ชี้ว่า นี่เป็นการเทขายดอลลาร์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี แน่นอนว่าการเทขายดังกล่าวส่งผลต่อ EUR/USD ทำให้คู่นี้มีแท่งเทียนกระทิงสีเขียวแท่งใหญ่จากราคาที่ขึ้นไปเกือบ 200 pips ถึงโซนแนวต้านที่ 1.0900
EUR/USD: 14 พฤศจิกายน - วันที่มืดมนสำหรับดอลลาร์
ในรีวิวฉบับก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญเสียงข้างมากแสดงความเห็นด้วยกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง การคาดการณ์นี้ปรากฏว่าเกิดขึ้นจริง ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งประกาศเมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พาดัชนีดอลลาร์ (DXY) ตกลงมาจาก 105.75 เหลือ 103.84 รายงานจาก Bank of America ชี้ว่า นี่เป็นการทุบดอลลาร์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี และก็ส่งผลกระทบต่อคู่ EUR/USD ซึ่งเป็นวันที่เกิดแท่งเทียนกระทิงแท่งใหญ่ พาราคาขึ้นไปเกือบ 200 จุด
EUR/USD: Mr. Powell ช่วยเงินดอลลาร์อย่างไร
สัปดาห์ที่แล้วเราได้เห็นเหตุการณ์ที่สำคัญบางเหตุการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนของคู่ EUR/USD ที่บริเวณ 1.0700 โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY) ปรับขึ้นเล็กน้อย เริ่มต้นที่ 105.05 จากนั้นขึ้นถึงระดับสูงสุดคือ 105.97 ภายในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน การเติบโตนี้เป็นเพราะความคิดเห็น “สายเหยี่ยว” (เน้นนโยบายการเงินแบบเข้มงวด” จากปากประธานธนาคารเฟด
EUR/USD: สัปดาห์ที่แย่สำหรับดอลลาร์
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ DXY กับ EUR/USD ปรากฏว่ากำลังแล่นในอยู่คลื่นที่ผันผวนทั้งขึ้นและลง ในช่วงต้นสัปดาห์มีการประกาศสถิติเบื้องต้นของยุโรป ในแง่การเติบโตรายปี GDP ยูโรโซนในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 0.1% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าทั้งการคาดการณ์ที่ 0.2% และตัวเลขครั้งก่อนหน้าที่ 0.5% นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อยังเข้าสู่ขาลง ในเดือนตุลาคม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 2.9% (ปีต่อปี) และต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 3.1% และตัวเลขในเดือนก่อนหน้าที่ 4.3%
EUR/USD: รอคู่นี้อยู่ที่ 1.0200?
หลังจากเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแท่งเขียวแล้ว EUR/USD ได้ขยับมายังระดับแนวรับ/แนวต้านที่โซน 1.0700 เมื่อวันอังคารที่ 24 ตุลาคม ก่อนที่ราคาจะกลับตัวและดิ่งลงอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การปรับฐานของดัชนีดอลลาร์ DXY ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งพาราคา EUR/USD ขึ้นไปด้านบนนั้น ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
EUR/USD: จะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเฟดและ ECB ในอนาคตอันใกล้?
เริ่มตั้งแต่ช่วงไม่กี่วันสุดท้ายของเดือนกันยายน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ซื้อขายอยู่ในกรอบไซด์เวยส์ สถิติที่ประกาศในสัปดาห์ที่แล้วไม่ได้ให้แรงสนับสนุนที่ชัดเจนกับดอลลาร์หรือยูโร เมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.7% แม้ว่าตัวเลขนี้จะต่ำกว่าตัวเลขครั้งก่อนหน้าที่ 0.8% แต่ก็สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่ 0.3% อยู่มาก ในวันเดียวกันมีการประกาศดัชนี Economic Sentiment ของสถาบัน ZEW ยูโรโซนด้วยเช่นกัน โดยตัวเลขประกาศที่ 2.3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ -8 อยู่มาก และเป็นการกลับขึ้นมาเป็นบวกจากที่เคยติดลบ -8.9 ในครั้งก่อนหน้า
EUR/USD: เงินเฟ้อขับเคลื่อนเทรนด์
ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ปรับลงต่อเนื่อง ซึ่งเทรนด์นี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกขยับขึ้น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ในช่วงไม่กี่วันล่าสุด ภาครัฐพยายามโน้มน้าวตลาดให้เชื่อว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะ “ลงจอดอย่างนุ่ม ๆ” และเป็นการบ่งชี้ว่าวัฎจักรมาตรการถอนสภาพคล่องทางการเงินอาจหยุดลงพักใหญ่ เช่น เมื่อวันพุธที่ 11 ตุลาคม Christopher Waller กรรมการบริหารของธนาคารเฟดสหรัฐฯ กล่าวว่า “การลดสภาพคล่องในตลาดการเงินกำลังได้ผลต่อเราในระดับหนึ่ง” ช่วยให้ธนาคารกลางสามารถใช้แนวทางรอดูสถานการณ์
EUR/USD: คู่นี้จะไปถึงระดับคู่ขนานที่ 1:1 หรือไม่?
ตลอดปี 2023 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านช่วงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่หยุดหย่อนมาอย่างราบรื่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่หลายคนคาดคิดยังไม่เกิดขึ้น ธนาคารเฟดจึงสามารถคงมาตรการสายเหยี่ยวต่อไปได้ แนวทางเหล่านี้ส่งผลให้ผลตอบแทนของพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมาก ผลตอบแทนของพันธบัตรชุด 10 ปีร่วงลงมา 46% นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งร่วงลงมากกว่าในปี 1981 ถึงสองเท่าท่ามกลางมาตรการการถอนสภาพคล่องออกจากระบบที่เข้มข้นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ในส่วนดัชนีดอลลาร์ (DXY) ยังคงอยู่เหนือระดับ 100.00 ตลอดปี ในขณะที่ EUR/USD ร่วงลง 6.5% จากระดับสูงสุดเดือนกรกฎาคม
EUR/USD: การปรับฐานยังไม่ใช่การกลับตัวของแนวโน้ม
พฤติกรรมของคู่ EUR/USD ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยปกติ ในสถานการณ์ทั่วไป การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งและตลาดแรงงานดูดี จะส่งผลให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งท่าทีนี้จะดึงดูดนักลงทุนและช่วงให้ค่าเงินประเทศแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในครั้งนี้กลับแตกต่างออกไปมาก
EUR/USD: การแทรกแซงด้วยวาจาของธนาคารเฟดสหรัฐฯ ช่วยหนุนเงินดอลลาร์
ในบทรีวิวครั้งก่อนหน้า เราได้พูดถึงการแทรกแซงด้วยวาจาโดยทางรัฐบาลญี่ปุ่นที่มุ่งอยากจะหนุนเงินเยนด้วยคำแถลงต่อสาธารณะ ในครั้งนี้ ท่าทีที่คล้ายกันมาจากคณะกรรมการ FOMC (คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารเฟด) นำโดยนาย Jerome Powell ประธานธนาคารเฟด ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา FOMC ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.50% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ส่วนใหญ่ เนื่องจากตลาดฟิวเจอร์สชี้ว่ามีโอกาส 99% ที่ผลลัพธ์จะออกมาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่ตามมา Powell กล่าวว่า การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อยังอีกยาวไกล และเป้าหมายที่ 2.0% อาจจะยังไม่สำเร็จจนกว่าจะถึงปี 2026 ดังนั้น โอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานจึงยังมีความเป็นไปได้อยู่ ประธานเฟดกล่าวว่า เขาไม่เห็นภัยเศรษฐกิจถดถอย และเศรษฐกิสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับดอกเบี้ยในอัตราสูงในระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ รายงานเปิดเผยว่าสมาชิกใน FOMC 12 จาก 19 รายคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5.75% ภายในปีนี้ การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของคณะกรรมการชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวน่าจะคงอยู่อีกสักระยะ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่ทบทวนแล้วชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจปรับลดลงเป็น 5.1% ในอีกหนึ่งปีจากปัจจุบัน (จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 4.6%) และลดลงมาที่ 3.9% ในช่วงเวลาสองปี (จากเดิม 3.4%)
EUR/USD: ECB พาเงินยูโรทรุดตัว
สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นสองเหตุการณ์ อย่างแรกคือการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 กันยายน เหตุการณ์ที่สองคือการประชุมของสภาบริการธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันที่ 14 กันยายน