ตุลาคม 14, 2018

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD ตลาดสหรัฐฯ เล็งเห็นการปรับตัวของราคาอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ S&P500 ตกลงมาอีก 2% ทำให้นักลงทุนต่างทิ้งเงินดอลลาร์ ปัจจัยนี้ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประสงค์จะเข้าพบประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ซึ่งเหตุการณ์นี้มองว่าอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก ดังนั้น เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ราคาได้กลับมาอยู่ที่กรอบของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1525-1.1830 ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและปิดตลาดระยะเวลาห้าวันทำการที่ 1.1560
  • GBP/USD การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ส่งผลต่อราคาคู่นี้ด้วยเช่นกัน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ราคาได้ขยับขึ้นไปที่ระดับ 1.3255 และค่าความต่างระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์เกินกว่า 335 จุด โดยในช่วงปลายสัปดาห์หลังจากราคาได้ขยับขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วก็ตามมาด้วยการรีบาวด์ของราคาและราคาปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ใกล้กับระดับ 1.3150
  • USD/JPY เงินเยนญี่ปุ่นกลับมาอยู่ ณ ราคากลางเดือนกันยายน ดังนั้น เงินเยนจึงแข็งค่าขึ้นต่อดอลลาร์สหรัฐ การก่อตัวของเทรนด์นี้ได้รับอิทธิพลจากการตอบสนองเชิงลบของผู้ร่วมตลาดรายใหญ่ที่ต้องการเพิ่มความผันผวนในตลาดโลกและซ่อนเงินทุนไว้กับฝั่งเงินเยนญี่ปุ่น ดังนั้น ราคาจึงปิดตลาดสุดท้ายในโซน 112.20
  • คริปโตเคอเรนซี อาจพอสรุปได้ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแวดวงเงินดิจิทัล เนื่องจากราคา BTC/USD ไม่ได้ขยับลงต่ำกว่าระดับทำกำไรจากการขุดเหมือง แม้ว่าราคาดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนมีความกังวล โดยราคาได้ขยับตกลงไปกว่า $420 ส่งผลให้ราคาลงต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ 6,215 การดิ่งลงของราคาเงินคริปโตเกิดจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตกลงและรายงานจาก IMF ซึ่งกล่าวถึงปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์และสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นสาเหตุใหม่ของความอ่อนแอในระบบการเงินโลก และการที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากตลาดหลักทรัพย์ SEC ของอเมริกาเกี่ยวกับคำขอเปิดทำการกองทุน ETF ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดเช่นกัน
    คู่สกุลเงินดิจิทัลที่เหลือก็ปรับราคาลงมาตามบิทคอยน์เช่นกัน มูลค่ารวมของตลาดคริปโตลดลงมาเป็น $1.5 แสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าราคาบิทคอยน์และอัลท์คอยน์ที่เหลือเช่น Litecoin (LTH/USD) Ripple (XRP/USD) และ Ethereum (ETH/USD) ได้ฟื้นคืนการขาดทุนบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ชัยชนะโดยรวมยังคงเป็นของตลาดหมีเป็นหลัก  

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD ในสัปดาห์นี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการก่อตัวของเทรนด์ในคู่ดอลลาร์ มีสถิติเศรษฐกิจมหภาคซึ่งจะประกาศออกมาจากฝั่งสหรัฐฯ ข้อมูลระดับเงินเฟ้อของยูโรโซน อังกฤษ และจีน ดัชนีเศรษฐกิจจากเยอรมนีและสหภาพยุโรป และรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศออกมาในวันพุธนี้ ตลาดจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากข้อมูล GDP ของจีน และแน่นอนว่ารวมถึงผลการประชุมของอียูเกี่ยวกับประเด็น Brexit
    เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ส่งผลให้สามารถเกิดเหตุการณ์ได้หลายทิศทาง ในสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ต่างให้สัญญาณที่มีความสับสน แต่ผู้เชี่ยวชาญเกือบทั้งหมด (60%) เชื่อว่าราคาจะกลับมาอยู่ในช่วง 1.525-1.1830 ราคาจะขยับขึ้นสักระยะ โดยในตอนแรกจะขยับไปที่ตรงกลาง และจากนั้นจะขยับไปที่กรอบด้านบนของช่องปัจจุบัน เป้าหมายอยู่ที่ 1.1650 และ 1.1735
    อีกสถานการณ์หนึ่งมองว่าหลังจากราคาสูงสุดรอบใหม่นี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะ 10 ปีจะน้อยลง ส่งผลให้เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น โดยระดับแนวรับจะอยู่ที่ 1.1430 และ 1.1300
  • GBP/USD ตามกรณีก่อนหน้านี้ มีนักวิเคราะห์ 60% ที่โหวตให้คะแนนกับการเคลื่อนที่ขาขึ้นของราคาคู่นี้ ในความเห็นของพวกเขา ราคาน่าจะขยับขึ้นไปที่โซน 1.3225-1.3245 โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ระดับความสูง 1.3300 ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญแล้วยังมีอีกหลายโอกาสให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่า และในอันดับแรกสุด ตลาดกำลังรอฟังข่าวดีเกี่ยวกับประเด็น Brexit
    ดัชนีเทรนด์จำนวน 80% และออสซิลเลเตอร์จำนวน 70% ในกรอบ D1 ก็ได้โหวตให้กับราคาขาขึ้นของคู่นี้ และมีดัชนีบางส่วนที่ให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้ถูกซื้อมากเกินไป (oversold)
    ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าในระยะกลางมีโอกาสที่จะเป็นแนวโน้มตลาดหมี และในที่นี้มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 55% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ที่คาดการณ์ว่าราคาจะขยับลงมาที่ราคาต่ำสุดของช่วงต้นเดือนตุลาคมในโซน 1.2920
  • USD/JPY สำหรับคู่นี้ ตลาดหมีมีชัยชนะมากกว่าเล็กน้อย (45%) ตามความเห็นของกลุ่มนี้คาดว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลงและราคาคู่นี้น่าจะขยับถึงระดับ 111.00 สถานการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีเทรนด์และออสซิลเลเตอร์จำนวน 70% อย่างไรก็ตาม มีออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ในกรอบ D1 ที่ให้สัญญาณแล้วว่าราคาอยู่ในช่วงถูกขายมากเกินไป
    นักวิเคราะห์จำนวน 35% โหวตให้กับการเคลื่อนที่ด้านข้างและอีก 20% ที่เหลือโหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้นโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 113.15, 114.00 และ 114.55
    สำหรับการวิเคราะห์กราฟสรุปได้ว่าในตอนต้นราคาจะขยับไปที่ระดับแนวต้านที่ 113.15 และจะลดตัวลงมาอย่างรวดเร็วที่แนวรับ 111.70 และจากนั้นจะพยายามขยับถึงระดับต่ำสุดในโซน 111.00
  • คริปโตเคอเรนซี ในช่วงที่ราคาลดลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม ราคาบิทคอยน์ขยับตัดผ่านเส้นแนวรับขาขึ้น ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา หากการลดลงของราคายังคงดำเนินต่อไป เราอาจได้เห็นราคา BTC/USD ในโซน $6,100 โดยระดับแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ $5,870 อย่างไรก็ตาม หากไม่มีข่าวลบกะทันหันใดๆ นักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาจะฟื้นกลับมาอยู่ที่โซน $6,325-6,835 คำทำนายนี้อยู่บนพื้นฐานของการวิจัย Chainalysis ซึ่งชี้ว่าผู้ร่วมตลาดรายใหญ่มักพยายามที่จะรอซื้อบิทคอยน์ในช่วงเวลาที่ราคาปรับตัวเพื่อให้ราคาเสถียรอย่างต่อเนื่องและนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาขณะนี้

บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 15 - 19 ตุลาคม 25611

  

โรมัน บุทโก, NordFX


« การวิเคราห์ตลาดและข่าว
รับการฝึก
มือใหม่ในตลาดใช่ไหม?ใช้ส่วน เริ่มฝึกฝน เริ่มฝึกฝน
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)