ทุกคนที่พอคุ้นเคยกับการเทรดย่อมเคยเจอกับสิ่งที่เรียกว่า ความผันผวน แน่นอนว่าหลักการเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่พูดถึงทั้งในตำราและบทความมกมาย การเลือกกลยุทธ์การเทรด การจัดการเงิน และความสำเร็จในการเทรดที่จะตามมานั้นล้วนขึ้นอยู่กับความผันผวน แต่ความผันผวนคืออะไร? เรามาหาคำตอบกัน
ในโลกการเงินมีคำกล่าวไว้ว่า “อเมริกาจะจาม แต่ทั้งโลกจะเป็นหวัด” แต่อะไรคือวิธีในการบ่งบอกว่าสาเหตุของการจามนั้นรุงแรงมากแค่ไหน เป็นแค่การจามเพราะรู้สึกไม่สบายตัว หรือเป็นเพราะป่วยอย่างจริงจังกันแน่?
ดัชนีหุ้น/ตลาดหลักทรัพย์จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้ ดัชนีหลักนั้นใช้ในการประเมินสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีรวมอยู่ในรายการเครื่องมือการเทรดของ NordFX ได้แก่ Dow Jones 30 (DJ30.c), S&P 500 (US500.c) และ NASDAQ-100 (USTEC.c) ซึ่งเราจะมาพิจารณาแต่ละดัชนีกันในที่นี้
นักเทรดผู้ที่เทรดในตลาดการเงิน: ฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ การทำความเข้าใจแนวโน้มการเติบโตหรือลดลงของสินทรัพย์ชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อสินทรัพย์อีกชนิดหนึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพได้ ช่วยเพิ่มกำไรจากธุรกรรม และลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินฝาก
จุด (point) เป็นหลักการที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการคำนวณผลกำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นได้ในตลาดการเงิน ในการทำธุรกรรม คุณจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า หนึ่งจุดมีค่าเท่าไร และเงินฝากของคุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรในกรณีที่ราคาขยับไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น 50 หรือ 100 จุด สิ่งนี้ส่งผลต่อทั้งการเลือกคู่สกุลเงินและกลยุทธ์การเทรด รวมถึงการกำหนดปริมาณของแต่ละธุรกรรม ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit สิ่งสำคัญคือการทราบมูลค่าของจุดเพื่อคำนวณค่าสเปรด เพื่อทำความเข้าใจว่าคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนได้เท่าไรเนื่องด้วยค่าสวอป อีกทั้งว่า Margin Call และ Stop Out จะเกิดขึ้นได้เมื่อไร
บทความฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อนักเทรดมือใหม่เป็นหลัก แต่อาจมีเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่พอมีประสบการณ์ในการเทรดในตลาดการเงิน เราจะพิจารณาหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับทั้งตัวเลือกของกลยุทธ์และโอกาสการทำกำไรของธุรกรรมการเทรด เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับคู่สกุลเงินกัน
อาจดูเหมือนว่าการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เป็นเรื่องง่าย ๆ แค่คุณไปที่เว็บไซต์ คลิกปุ่ม กรอกแบบฟอร์มก็เสร็จเรียบร้อย แล้วคุณสามารถฝากเงินและเริ่มเทรดได้เลย หลายคนทำเช่นนี้แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อปรากฏว่ามีบางอย่างผิดพลาดไป คุณจะทำอย่างไรให้ถูกต้อง?
การเทรดในตลาดการเงินมีหลากหลายวิธีและกลยุทธ์ แนวทางต่าง ๆ ล้วนแตกต่างกันไปทั้งในแง่ของระดับความเสี่ยงและประเภทของการวิเคราะห์ที่นักเทรดใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือทางเทคนิค ปัจจัยที่ใช้พิจารณา อินดิเคเตอร์และที่ปรึกษาที่ใช้งาน แน่นอนว่าแต่ละตลาด (สินค้าโภคภัณฑ์ ค่าเงิน หุ้น หรือคริปโต) และชนิดสินทรัพย์ที่นักเทรดทำงานด้วยนั้นก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน และประการสุดท้าย (หรืออาจจะเป็นประการแรก) กลยุทธ์ก็แบ่งเป็นประเภทตามระยะเวลาของแต่ละธุรกรรม ซึ่งอาจกินเวลาตั้งแต่ไม่กี่จุดวินาทีไปถึงหลายปี
หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เช่น บริษัท IBM, JP Morgan Chase, Coca-Cola, Mastercard, McDonalds, Microsoft, Twitter, UBER, eBay, Alibaba, Deutsche Bank และอีกหลายบริษัทนั้นเป็นส่วนหนึ่งของรายการสินทรัพย์ชั้นนำที่นำเสนอโดยบริษัทโบรกเกอร์ แต่เช่นเดียวกันกับสินทรัพย์การเงินอื่น ๆ สินทรัพย์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเติบโตขึ้นเท่านั้น แต่ราคาก็ลดลงได้เช่นกัน ดังนั้น ทั้งนักเทรดและนักลงทุนจึงอาจได้ทั้งกำไรหรืออาจขาดทุนจากการเทรด
แน่นอนว่า ทุกคนอยากที่จะเลือกเส้นทางที่หนึ่ง เราจึงตัดสินใจที่จะมาเล่าให้ฟังว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ทำเงินก้อนแรก $5 จากตลาดหลักทรัพย์เมื่ออายุ 11 ปี กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินทั้งหมด $96 พันล้านดอลลาร์เมื่ออายุ 90 ปี ได้อย่างไร
ตลาดการเงินในขณะนี้มีกลยุทธ์การซื้อขายเพื่อกำไรหลายรูปแบบ โดยต่างอยู่บนพื้นฐานของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด ทุกคนต่างเฝ้าฝันถึงการเปิดหนทางสู่อนาคตด้วยการทำนายพฤติกรรมเครื่องมือทางการเงินอย่างแม่นยำ สิ่งนี้เองที่จะส่งผลต่อทั้งสภาพของผู้ลงทุนและบางครั้งก็ส่งผลถึงความสำเร็จขององค์กรลงทุนที่ใช้ทรัพยากรอย่างน่าพึงพอใจด้วยเช่นกัน ทั้งอินดิเคเตอร์แบบอิงความแปรปรวนและออสซิลเลเตอร์นี้ต่างเป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่สำคัญและเชื่อถือได้มากที่สุดรูปแบบหนึ่ง
ชุดเครื่องมือการเทรดที่ NordFX นำเสนอให้กับลูกค้า คือ คลังอาวุธที่จะช่วยให้นักเทรดใช้งานกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นผู้ชนะในสนามประลอง “อันนองเลือด” ในโลกการเงินแห่งนี้ด้วยการโจมตีด้วยความเร็วแสง และการต่อสู้อย่างแข็งขัน คู่สกุลเงิน 33 คู่ คู่คริปโต 11 คู่ หุ้นบริษัทชั้นนำเกือบ 70 บริษัท 6 ดัชนีหุ้น โลหะมีค่า และน้ำมัน ปริมาณ “คลังอาวุธ” เหล่านี้นั้นมากเกินพอสำหรับนักเทรดส่วนใหญ่ในการเป็นแนวหน้าในสนามรบ อย่างไรก็ตาม นักเทรดอาจรู้สึกว่าขาด “กระสุน” ชั่วขณะได้ และคู่สังเคราะห์และคู่คริปโตเคอเรนซีจึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในกรณีนี้
การเทรดสัญญา CFD ในตลาดหุ้นเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการทำเงินออนไลน์ นอกจากนี้ นักเทรดแตกต่างจากนักลงทุนตรงที่ นักเทรดสามารถทกำไรได้ไม่ใช่แค่จากมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในช่วงขาลงของราคาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเทรดหุ้นอย่างประสบความสำเร็จต้องอาศัยการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและแนวโน้มของแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็นรายงานเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดด้านเทคโนโลยี การแข่งขัน และส่วนแบ่งในตลาด ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย แต่มีสินทรัพย์ CFD อีกกลุ่มหนึ่งที่นักเทรดไม่จำเป็นต้องเจาะลึกในเอกสารทางการเงิน หรือทำการตรวจสอบบัญชีของแต่ละกิจการขนานใหญ่ กลุ่มนี้คือดัชนีหุ้นนั่นเอง
นักเทรดมือใหม่หลายคนอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นยอดคงเหลือติดลบเมื่อทำการเปิดคำสั่งเทรดธุรกรรมแรก แม้ว่าราคาจะยังไม่ขยับไปไหน และจะเริ่มเข้าใจว่าโบรกเกอร์ให้บริการต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล และคุณจะต้องชำระเงินเพื่อเข้าถึงสินทรัพย์ทางการเงินและเงื่อนไขการเทรด นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่สื่อกลางระหว่างคุณและตลาดการเงินโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทพาณิชย์ที่ต้องทำกำไรให้กับผู้ก่อตั้งอีกด้วย
เราไม่ได้บอกว่าการลงทุนวิธีอื่นนั้นโง่หรือไม่ดี เพียงแค่แนวทางที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้จะสามารถช่วยเพิ่มรายได้จากการลงทุนของคุณได้หลายเท่า นอกจากนี้ ยังเป็นการลงทุนที่ทำได้ง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
ฟอเร็กซ์คืออะไร กำเนิดขึ้นเมื่อไร อย่างไร และทำไม? นักเทรดและนักลงทุนทุกคนควรรู้คำตอบต่อคำถามเหล่านี้ เพราะหากคุณตอบไม่ได้ คุณจะเป็นมืออาชีพได้อย่างไร?
เคล็ดลับไม่กี่ประการเกี่ยวกับวิธีการเลือกสัญญาณที่ทำกำไรเพื่อติดตามใน Copy Trading เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียเงิน คำแนะนำเหล่านี้เหมาะสำหรับบัญชี PAMM ด้วยเช่นกัน
บริษัทโบรกเกอร์ NordFX จ่ายเงินแล้วกว่า $30,000,000 ให้กับพาร์ทเนอร์ IB และพาร์ทเนอร์ผู้นำของโบรกเกอร์แห่งนี้ทำรายได้ได้ตั้งแต่ 5,000 และ 17,000 USD ต่อเดือน
มีกลยุทธ์มากมายกว่าหลายพันชนิดสำหรับการเทรดในตลาดการเงิน บางกลยุทธ์ใช้งานได้อเนกประสงค์ บางกลยุทธ์ใช้ได้ดีเฉพาะกับสินทรัพย์ทางการเงินบางประเภทเท่านั้น เช่น คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์จะเหมาะสำหรับการเทรดแบบสั้นและแบบจบวันมากกว่า ในขณะที่การเทรดหุ้น นักเทรดหลายคนชอบพัฒนากลยุทธ์ที่เน้นเทรนด์ระยะยาวมากกว่า
การเทรดหรือลงทุนซื้อขายทุกประเภทในปัจจุบัน ผลกำไรย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง เช่นเดียวกับ การเทรด Forex ระยะสั้น ทว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องยากหากผู้เทรดเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจัง Forex เทรดสั้นอย่างไรให้รวย เป็นคำถามที่น่าสนใจ แล้วผู้เทรดต้องทำอย่างไรและควรมีเทคนิคอย่างไรบ้าง
การซื้อขายฟอเรกซ์กำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต่างมองหาธุรกิจมารองรับกับโลกดิจิทัลที่มีความทันสมัยมากขึ้น ในปัจจุบันถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในด้านการลงทุน ซึ่งการลงทุนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือ การเทรด Forex จนมาสู่คำถามที่ว่า Forex คืออะไร และ มีวิธีการทำกำไรอย่างไร
เราคิดว่าทุกคนคงเคยดูหนังอเมริกาเกี่ยวกับชนพื้นเมืองคนพอทราบว่า หนังศีรษะ (scalp) คืออะไร และทำไมในอดีตถึงเป็นเหมือนถ้วยรางวัลในศึกสงคราม เราจะไม่ขุดประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันตะวันตกมาอธิบาย แต่เราจะอธิบายว่าคำ ๆ นี้มาจากคำภาษาละติน scalpere ซึ่งเป็นคำกิริยาหมายถึงการ “เฉือนออก”
ก่อนลงทุนซื้อขายฟอเรกซ์ นักลงทุนต่างทราบดีว่าสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การเปิดบัญชีฟอเร็กซ์ มีนักเทรดจำนวนไม่น้อยที่ยังลังเลและไม่กล้าลงทุนเนื่องจากยังมีความกังวลใจว่า โบรกเกอร์ที่จะเลือกลงทุนปลอดภัยและน่าเชื่อถือหรือไม่ แล้วถ้าต้องเลือกเปิดบัญชี Forex นักเทรด Forex เปิดบัญชีที่ไหนดี
เป็นที่ทราบกันดีว่า การเทรดฟอเร็กซ์เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยมูลค่าการเติบโตของตลาด Forex ในปี 2020 ที่มีมูลค่ามากกว่า 6.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน การเทรด Forex เป็นอาชีพจึงได้รับความสนใจจากนักเทรดที่ต้องการ เรียนรู้ Forex และเตรียมตัวเทรดเพื่อเป็นอาชีพหลักในขณะนี้
นักเทรดหลายคนมักสงสัยว่าธุรกรรมฟอเร็กซ์แตกต่างจาก CFDs (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) อย่างไร สองสิ่งนี้มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง แต่ในความเห็นของเรา สองสิ่งนี้มีความเหมือนกันมากกว่า
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาด Forex ในปัจจุบันกำลังเป็นที่จับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทยที่มีนักลงทุนต่างเริ่มให้ความสนใจและเริ่มต้นศึกษากันอย่างจริงจัง ทว่า หากต้องการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ได้ถูกจังหวะของการลงทุนมากที่สุด สิ่งแรกที่นักลงทุนต้องการรู้ คือ เวลาเปิดปิดตลาด Forex นั่นเอง
CFDs หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contracts for Difference) คือ อนุพันธ์ทางการเงิน (สำหรับซื้อขายหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์โดยไม่ต้องรับมอบของจริง) ซึ่งช่วยขยายศักยภาพของนักเทรดได้เป็นอย่างมาก นอกเหนือจากคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์แล้ว คุณยังสามารถทำงานกับหุ้น ดัชนีหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และแม้คริปโตเคอเรนซีได้อีกด้วย บัญชีเทรด CFD มีให้บริการอย่างแพร่หลายโดยโบรกเกอร์ NordFX
การเทรดฟอเร็กซ์ไม่ใช่หนทางที่ง่ายดี คุณจำเป็นต้องศึกษาหลายเรื่องก่อนที่จะเริ่มทำรายได้ที่นี่ โชคดีที่คุณไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยเพื่อเทรดฟอเร็กซ์อย่างประสบความสำเร็จ การเรียนรู้วิธีเทรดค่าเงินและสินทรัพย์การเงินอื่น ๆ มีหลายวิธี ต่อไปนี้เราจะให้คำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่คุณจะต้องศึกษาจนเชี่ยวชาญเพื่อประสบความสำเร็จ
เครื่องมือการเทรด คือ สินทรัพย์ที่นักเทรดสามารถใช้งานเมื่อทำธุรกรรมใด ๆ ชัดเจนว่ายิ่งมีสินทรัพย์มากเท่าไร โอกาสของนักเทรดที่จะพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่หลากหลายและป้องกันความเสี่ยงก็มีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น โอกาสที่จะทำกำไรอย่างมั่นคงจึงเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทโบรกเกอร์ NordFX จึงให้บริการรายการเครื่องมือการเทรดที่มีความหลากหลายอย่างน่าประทับใจสำหรับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถดูรายชื่อและคุณสมบัติของสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ได้บนเว็บไซต์ทางการของโบรกเกอร์ในส่วนบัญชีซื้อขายและในแถบการควบคุมบนเทอร์มินอลการเทรด โดยเราสามารถสรุปเป็นกลุ่มสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
สำหรับธุรกรรมออนไลน์ในตลาดการเงิน บริษัทโบรกเกอร์ NordFX นำเสนอเทอร์มินอลการเทรดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกให้กับลูกค้า คือ MetaTrader 4 (MT4) หลังจากดาวน์โหลดแพล็ตฟอร์มนี้แล้ว นักเทรดจะเห็นตัวเลือกสามแบบในการแสดงกราฟราคาของสินทรัพย์การเทรดในส่วน “คุณสมบัติ” ได้แก่ กราฟแท่ง กราฟเส้น และกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น
ทั้งนี้ อาจดูเหมือนว่ากราฟแท่งเทียน โดยเฉพาะกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นนั้นยากต่อการใช้เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่นี่เป็นเพียงแค่แวบตาแรกเท่านั้น
นักเทรดสามารถใช้ได้ไม่เพียงแต่ความรู้ในการทำงานเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย เช่น สคริปต์เสริม หรือ อัลกอริทึมที่สามารถให้คำแนะนำและเปิดหรือปิดธุรกรรมได้ด้วยตนเอง ระบบการเทรดแบบอัตโนมัติเหล่านี้เรียกว่าหุ่นยนต์ฟอเร็กซ์หรือบอทเทรด และบทความฉบับนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียด รวมถึงประเภทและวิธีการใช้งาน
การทำเงินจากความผันผวนของค่าเงินเป็นไปได้ไม่ใช่เฉพาะจากการเทรดเท่านั้น บริการ PAMM ฟอเร็กซ์อนุญาตให้แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเทรดมาก่อน ก็สามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในราคาของเงินตราต่างประเทศ ในทางกลับกัน นักเทรดมืออาชีพก็สามารถใช้บริการ PAMM ฟอเร็กซ์เป็นโอกาสในการเพิ่มขนาดเงินทุนในการเทรดของตน