กันยายน 22, 2020

การทำเงินจากความผันผวนของค่าเงินเป็นไปได้ไม่ใช่เฉพาะจากการเทรดเท่านั้น บริการ PAMM ฟอเร็กซ์อนุญาตให้แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเทรดมาก่อน ก็สามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในราคาของเงินตราต่างประเทศ ในทางกลับกัน นักเทรดมืออาชีพก็สามารถใช้บริการ PAMM ฟอเร็กซ์เป็นโอกาสในการเพิ่มขนาดเงินทุนในการเทรดของตน

บัญชี PAMM คืออะไร

บัญชี PAMM (ในภาษาอังกฤษ PAMM ย่อมาจาก Percent Allocation Management Module หรือหน่วยการบริหารจัดการและจัดสรรเปอร์เซ็นต์) คือ บัญชีการลงทุนชนิดพิเศษที่เชื่อมโยงกับบัญชีของนักเทรดผู้จัดการ หลักการทำงานเข้าใจง่าย นักเทรดจะเป็นผู้สร้างข้อเสนอ (ข้อเสนอในการร่วมงานโดยระบุเงื่อนไขต่าง ๆไว้อย่างชัดเจน) และนักลงทุนทำการลงทุนในบัญชีดังกล่าว โดยจะมีการแบ่งสรรกำไรให้กับแต่ละฝ่ายตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในข้อเสนอ ทั้งนี้ผลกำไรจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การเทรดของนักเทรดผู้จัดการนั้น ๆ

ผู้มีส่วนร่วมสำคัญในบริการ PAMM

การลงทุนในบริการ PAMM มีผู้มีส่วนร่วมสำคัญทั้งหมด 3 ฝ่ายด้วยกัน คือ:

  1. นักเทรดผู้จัดการ ซึ่งเป็นลูกค้าของโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรดในระดับหนึ่ง ซึ่งได้รับการยืนยันโดยสถิติ
  2. นักลงทุน คือ คนที่ลงทุนในบัญชีของนักเทรดผู้จัดการ รับกำไรจากผลการดำเนินงานของนักเทรดผู้จัดการ
  3. บริการ PAMM นี่คือโบรกเกอร์ เช่น NordFX ดำเนินงานด้านการเทรดและบริหารจัดการเรื่องการเงินระหว่างผู้จัดการและนักลงทุน

ทั้งนี้ นักลงทุนหนึ่งคนสามารถจัดสรรเงินลงทุนให้กับผู้จัดการหลายคนพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมบูรณ์มากที่สุด และผู้จัดการหนึ่งคนก็สามารถรับเงินลงทุนจากนักลงทุนหลายคนพร้อม ๆ กันได้เช่นกัน

บริการ PAMM จากมุมมองของผู้จัดการ

นักเทรดท่านใดก็สามารถเป็นผู้จัดการได้ เพียงแค่คุณลงทะเบียนกับโบรกเกอร์ เช่น NordFX แล้วเปิดบัญชี PAMM สร้างข้อเสนอที่จะแสดงค่าธรรมเนียมของนักเทรด เติมเงินในบัญชี และเริ่มเทรดได้เลย

โดยทั่วไป กิจกรรมการทำงานของผู้จัดการไม่ได้แตกต่างไปจากการเทรดทั่ว ๆ ไป แต่มีข้อยกเว้นหนึ่งประการก็คือ ผลลัพธ์ของนักเทรดทั้งหมดจะถูกบันทึกและจะแสดงให้ดูในรูปแบบสถิติโดยละเอียด สิ่งนี้จำเป็นเพื่อให้นักลงทุนสามารถประเมินศักยภาพของผู้จัดการและตัดสินใจว่ากลยุทธ์การเทรดของผู้จัดการคนนั้น ๆ เหมาะสำหรับการลงทุนหรือไม่

ในบริษัทโบรกเกอร์ NordFX นักลงทุนสามารถประเมินการเทรดของผู้จัดการโดยใช้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เกือบ 50 ชนิด ที่จะช่วยให้พวกเขาทำนายทั้งโอกาสการทำกำไร และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

นักเทรดผู้จัดการจะได้รับผลกำไรส่วนหนึ่งตามผลลัพธ์การเทรดของเขา ส่วนที่เหลือจะได้รับการจัดสรรให้กับนักลงทุนตามสัดส่วนที่กำหนดในข้อเสนอ นอกจากนี้ ยังมีการติดตามอย่างใกล้ชิดโดยโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ PAMM เพื่อให้นักเทรดไม่ต้องคำนวณใด ๆ ด้วยตนเอง และไม่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดข้อขัดแย้งระหว่างผู้จัดการและนักลงทุนอันเนื่องมาจากการคำนวณผิดพลาดด้วยเช่นกัน

ข้อดีสำคัญของบัญชี PAMM ในมุมมองของผู้จัดการคืออะไร? ประการแรก คือ โอกาสในการเพิ่มรายได้อย่างมหาศาลจากการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ระหว่างประเทศ ผู้จัดการยังสามารถทำงานด้วยเงินของนักลงทุนนอกเหนือไปจากเงินทุนของตนเอง และได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากผลกำไรอีกด้วย ยิ่งผลลัพธ์การเทรดดีเท่าไร ก็จะยิ่งได้รับกำไรสูงขึ้น นักลงทุนก็จะร่วมลงทุนกับผู้จัดการรายนี้เพิ่มขึ้น

และก็ไม่มีข้อเสียใด ๆ เพราะผู้จัดการสามารถเทรดได้ตามปกติ เสี่ยงเงินทุนของตนเองตามปกติ และไม่ต้องรับภาระความรับผิดชอบเพิ่มเติมต่อนักลงทุนสำหรับผลลัพธ์การเทรด หากประสบความสำเร็จก็จะมีนักลงทุนต้องการร่วมลงทุนด้วยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเทรดแล้วขาดทุนก็จะไม่มีใครสนใจที่จะเข้าร่วมในบัญชีของเขา

บัญชี PAMM จากมุมมองของนักลงทุน

ไม่เพียงแต่ผู้ที่เทรดด้วยตนเองเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเทรดได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถทำรายได้จากตลาดฟอเร็กซ์ระหว่างประเทศได้ เช่น คุณทำกำไรไม่ได้ เพราะคุณไม่มีพรสรรค์ หรือคุณไม่อยากศึกษา ไม่มีเวลา ฯลฯ แต่แม้ในกรณีเหล่านี้ก็ยังไม่หมดโอกาส

จริง ๆ แล้ว ฟอเร็กซ์ให้โอกาสการทำรายได้อย่างไม่จำกัด ตลาดนี้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด โดยมีปริมาณเงินหมุนเวียนในแต่ละวันกว่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักเทรดหลายคนก็กะตือรือร้นที่จะทำงานในตลาดนี้ ไม่มีสินทรัพย์จริงที่นี่ และนักเทรดสามารถทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินอย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องมีการครอบครอง

สำหรับนักลงทุน ตลาดฟอเร็กซ์คือโอกาสในการทำรายได้เชิงรับโดยการลงทุนในผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าการทำงานประเภทนี้จะไม่เรียกว่าเป็นเชิงรับโดยสมบูรณ์ จริง ๆ แล้ว นักลงทุนจะต้องทำการวิเคราะห์บางส่วน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำนายความผันผวนของตลาดค่าเงิน แต่เป็นการวิเคราะห์เพื่อเลือกนักเทรดที่ใช่ที่สามารถไว้วางใจให้บริหารเงินทุน

ข้อได้เปรียบหลักในการลงทุนใน PAMM คืออะไร? ข้อดีต่าง ๆ มีดังนี้:

  1. ลงทุนในฟอเร็กซ์ผ่าน PAMM มีความสะดวกมาก คุณในฐานะนักลงทุนจำเป็นเพียงแค่เลือกผู้จัดการที่เหมาะสมและเชื่อมกับบัญชีของพวกเขา
  2. อัตโนมัติโดยสมบูรณ์ คุณไม่ต้องทำการคำนวณหรือไกล่เกลี่ยใด ๆ ด้วยตนเอง กระบวนการทั้งหมดทำงานโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์บนแพล็ตฟอร์มของโบรกเกอร์
  3. ควบคุมโดยโบรกเกอร์ ความเสี่ยงในการโกงของนักเทรดถูกจำกัดออกไป ทุกอย่างได้รับการควบคุมโดยบริการการลงทุน PAMM เช่น ผู้จัดการไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนบนบัญชีการลงทุนที่เชื่อมต่อกับของเขา เขาไม่สามารถขโมยเงินลงทุนของนักเทรดและนำออกไปได้แต่อย่างใด
  4. นักลงทุนได้รับข้อเสนอในรูปแบบการลงทุนที่สะดวก มีประวัติการเทรดและสถิติที่ครอบคลุมสำหรับนักเทรดผู้จัดการทุกคนให้บริการ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถประเมินกลยุทธ์การเทรดของพวกเขาและทำการตัดสินใจที่รอบคอบและถูกต้อง
  5. ลงทุนในฟอเร็กซ์โดยใช้ PAMM เป็นไปได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในตลาดนี้ ในฐานะผู้ฝากเงิน คุณไม่จำเป็นต้องลงลึกเกี่ยวกับการเทรด ความรู้ทั้งหมดนี้จำเป็นเฉพาะสำหรับผู้จัดการเท่านั้น
  6. มีโอกาสในการสร้างพอร์ตการลงทุนเป็นของคุณเอง บัญชี PAMM ฟอเร็กซ์ทำให้คุณสามารถกระจายการลงทุนโดยเลือกนักเทรดหลายคนที่มีสไตล์การเทรดที่แตกต่างกันและอัตรากำไรและความเสี่ยงที่ต่างกันไป

เลือกผู้จัดการหรือสร้างพอร์ตของคุณ

การลงทุนผ่าน PAMM สามารถทำกำไรได้ดี อย่างไรก็ตามก็มีบางเวลาที่จะต้องอาศัยความพยายามสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมในกิจกรรมประเภทนี้ จริง ๆ แล้ว บัญชี PAMM ฟอเร็กซ์รวมถึงของโบรกเกอร์ NordFX มีหลากหลายผู้จัดการให้เลือก และตัวเลือกนี้ไม่ใช่แค่การหาเงื่อนไนที่ยอมรับได้มากที่สุดในข้อเสนอ อย่างที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์จำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์สถิติของนักเทรดอย่างรอบคอบ

มีกลยุทธ์การเทรดสามประเภทหลักที่ผู้จัดการใช้งาน: แบบเสี่ยงสูง, แบบสมดุล และแบบเสี่ยงต่ำ

แบบเสี่ยงสูง ผู้จัดการมักจะมีผลงานดีในเรื่องของกำไร สามารถทำกำไรได้หลายร้อยหรือพันเปอร์เซ็นต์ แต่พวกเขามีความเสี่ยงสูงและมีการขาดทุนสะสมปริมาณมาก บัญชีประเภทนี้มีโอกาสมากกว่าที่จะขาดทุนเป็นเงินจำนวนมากและอาจทำให้ต้องสูญเสียเงินทุนต้นทั้งหมด

แบบสมดุล ผู้จัดการแสดงผลรายได้แบบเฉลี่ยปานกลาง แต่ความเสี่ยงก็ถือว่าต่ำกว่า บัญชี PAMM ฟอเร็กซ์ประเภทนี้มีการขาดทุนไม่บ่อยครั้งเท่ากับการเทรดแบบเสี่ยงสูง

สุดท้าย แบบเสี่ยงต่ำ บัญชีประเภทนี้มีรายได้ต่ำ ในขณะเดียวกัน การลงทุนในฟอเร็กซ์กับผู้จัดการกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำที่สุด นักเทรดมักมีธุรกรรมเทรดในระยะยาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นในประวัติที่แสดงของบริการ PAMM

เราควรเลือกตัวเลือกไหน?

ตรงนี้เองเราจึงจำเป็นต้องสร้างพอร์ตการลงทุน หากคุณวางแผนที่จะลงทุนโดยใช้เทคโนโลยี PAMM การลงทุนประเภทนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากการซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ มากเท่าไร พอร์ตแบบคลาสสิกมักจะประกอบด้วยสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภททั้งมีความเสี่ยงสูงและต่ำ

ในการทำงานกับโบรกเกอร์ PAMM เช่น NordFX ภารกิจของคุณคือการสร้างพอร์ตเดียวกันที่มีสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จะได้รับ กล่าวคือ คุณสามารถลงทุนในผู้จัดการทุกกลุ่มที่อธิบายข้างต้นตั้งแต่แบบเสี่ยงสูงถึงเสี่ยงต่ำ และคุณก็จะได้รับผลกำไรที่ค่อนข้างสูงด้วยความเสี่ยงที่จำกัด

ในส่วนของเปอร์เซ็นต์ มีคำแนะนำหลายประการ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ทางที่ดีที่สุดคือการจัดสรรเงินเพียง 20% ในบัญชีให้กับบัญชีประเภทเสี่ยงสูง และหารที่เหลือเพื่อลงทุนในบัญชีแบบสมดุลและเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนนี้ไม่ใช่กฎตายตัว คุณสามารถกำหนดได้เองว่าคุณอยากจะให้พอร์ตของคุณมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และคำนวณตามความต้องการของตนเอง

คำแนะนำสำหรับการเลือกบัญชี PAMM

และตอนนี้มาถึงคำถามเกี่ยวกับวิธีการเลือกบัญชี PAMM ฟอเร็กซ์ที่ใช่มากที่สุด โดยมีหลายหลักเกณฑ์ที่คุณควรให้ความสนใจ ได้แก่:

  1. อายุของบัญชี PAMM อินดิเคเตอร์ตัวนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับนักลงทุนที่วางแผนลงทุนในกลยุทธ์แบบเสี่ยงสูง ยิ่งผู้จัดการมีผลลัพธ์ที่เป็นบวกนานเท่าใด พวกเขาจะยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  2. ผลตอบแทนเฉลี่ยรายเดือน ตัวชี้วัดนี้ประกอบด้วยผลกำไรเฉลี่ยต่อเดือนในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้คุณสามารถดูได้ว่ากลยุทธ์ของนักเทรดนั้นมีประสิทธิภาพมากเท่าใด และมีสไตล์การเทรดแบบใด
  3. การขาดทุนสะสมสูงสุด นี่คือตัวชี้วัดที่มีความสำคัญเท่า ๆ กันซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของนักลงทุน ยิ่งมีการขาดทุนสะสมสูงสุดมากเท่าใด สไตล์การเทรดของนักเทรดก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น รวมถึงความเป็นไปได้สูงขึ้นที่คุณจะสูญเสียเงินของคุณ

หลักเกณฑ์สำคัญในการประเมิน คือ:

  1. ค่าเลเวอเรจที่ใช้ โดยทั่วไป ยิ่งอัตราทดสูงก็จะยิ่งเป็นภาระต่อเงินฝาก และความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงขึ้น
  2. การจำกัดความเสี่ยงของนักเทรดผู้จัดการ หากความเสี่ยงมีมากกว่า 30% ของเงินฝาก แปลว่า ผู้จัดการคนนั้น ๆ ไม่ใช้งานคำสั่ง stop orders มีการเลื่อนคำสั่ง หรือลบคำสั่งเพื่อคาดหวังว่าราคาจะกลับตัว
  3. การใช้ระบบการบริหารจัดการเงินที่เสี่ยงสูงหลายแบบ ระบบที่โด่งดังมากที่สุดในกรณีนี้คือระบบมาร์ติงเกล ซึ่งมีอธิบายไว้ในตำราและบทความเกี่ยวกับฟอเร็กซ์มากมาย ผู้จัดการบางคนระบุถึงการใช้งานระบบนี้ในข้อเสนอของพวกเขา แต่ถึงแม้ไม่ใช่กรณีนี้ ผู้จัดการบางคนอาจใช้แนวทางที่คล้ายกันโดยการเติมเงินฝากและเพิ่มการขาดทุนในช่วงระยะเวลาที่มีเทรนด์กลับตัวระยะยาวในคู่สกุลเงินที่เทรด

เมื่อวางแผนลงทุนในบริการ PAMM คุณจำเป็นจะต้องพิจารณาอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่จะจัดสรรพอร์ตการลงทุนของผู้จัดการเป็นของตนเอง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำว่า ความสามารถในการทำกำไรควรจะสูงกว่าความเสี่ยง 2-3 เท่า หากความสามารถในการทำกำไรเท่ากับความเสี่ยง คุณอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผลกำไรของคุณอาจเท่ากับ ... 0

ในการทำงานกับบริการ PAMM การสร้างเงื่อนไขสำหรับการออกจากการทำงานนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งเป็นการยุติการทำงานกับผู้จัดการท่านใด ๆ (หรืออย่างน้อยชั่วคราว) โดยมีหลักเกณฑ์ที่สามารถนำมาใช้งานได้ ดังนี้:

  1. ขาดทุนสะสมมากเกินไป นี่คือหนึ่งในตัวชี้วัดความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดที่คุณควรจะให้ความสนใจ เป็นตัวบ่งบอกว่าผู้จัดการคนนั้นเทรดอย่างรุกมากเกินไป และมีโอกาสที่จะขาดทุนอย่างหนักได้
  2. การเปลี่ยนแปลงในระบบการเทรดของผู้จัดการ นี่อาจไม่ใช่เหตุผลที่ต้องบอกลาผู้จัดการเสมอไป แต่เป็นเหตุผลที่จะต้องมาวิเคราะห์และประเมินข้อกำหนดในการร่วมงานและปริมาณการลงทุนกันใหม่ บางทีระบบการเทรดของนักเทรดอาจมีความยืดหยุ่นและได้ผลมากกว่าระบบเดิม ในกรณีนี้ ผู้จัดการคนดังกล่าวก็อาจจะอยู่ในพอร์ตต่อไปและอาจมีส่วนแบ่งของการลงทุนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากการเปลี่ยนแปลงระบบนั้นไม่สมเหตุสมผลในมุมมองของคุณ ก็ถึงเวลาที่จะต้องยุติการทำงานร่วมกัน


« บทความมีประโยชน์
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)