บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 4 – 8 มิถุนายน 2561

อันดับแรกจะเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์คู่สกุลเงินหลักและคู่คริปโตเคอเรนซีของเดือนที่ผ่านมา:

  • EUR/USD พฤติกรรมของคู่นี้ ณ ช่วงต้นสัปดาห์กำหนดโดยความกลัวของฝ่ายต่างๆ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศอิตาลี ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงปรับตัวลดลงตามราคา ณ ปีก่อนหน้าเกือบถึงที่ระดับ 1.1500 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยูโรโซนก็มีความนิ่งสงบมากขึ้น ฝ่ายประชานิยมอิตาลีได้ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม และค่าเงินดอลลาร์เริ่มเสียตำแหน่งมากขึ้น ในสถานการณ์ดังกล่าว ค่าเงินยูโรเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาประมาณ 215 จุด แม้ว่าจะมีข้อมูลเชิงบวกจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ประกาศออกมาในวันศุกร์ที่ผ่านมา (ดัชนี NFP เพิ่มขึ้นจาก 159k เป็น 223k) ก็ไม่ได้ส่งผลการเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้น ราคาจึงปิดตลาดห้าวันทำการเกือบจุดเดียวกันกับจุดเริ่มต้นที่โซน 1.1660
  • คู่ GBP/USD มีพฤติกรรมคล้ายกันกับคู่สกุลข้างต้น โดยในตอนแรก ราคาได้ถอยลงมาที่ระดับราคาของเดือนพฤศจิกายน 2560 แต่ไม่สามารถทะลุระดับแนวรับในโซน 1.3200 ได้สำเร็จ และราคาก็วกกลับขึ้นไปที่ระดับ 1.3345 จากนั้นภาวะหมีเริ่มเข้าโจมตี แต่หลังจากที่สู้กันสักระยะสั้นๆ ภาวะกระทิงเป็นฝ่ายเป็นต่อ ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงสามารถขึ้นไปตั้งหลักเหนือระดับราคาของสองสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.3300 และปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 1.3345
  • USD/JPY ในช่วงต้นสัปดาห์ ค่าเงินเยนเริ่มขยับสูงขึ้น แต่ต่อมาก็เสียตำแหน่งลงมา แม้ว่าตัวเลขดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในภาคการผลิตประจำเดือนพฤษภาคมสูงขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีความเป็นไปได้ว่าเงินเย็นอ่อนค่าลงเนื่องจากแนวทางปฏิบัติของธนาคารกลางญี่ปุ่นซึ่งได้ปรับลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 ผลลัพธ์การต่อสู้กันระหว่างตลาดหมีและกระทิงจึงออกมาเสมอ และราคาปิดตลาดที่ 109.52
  • คริปโตเคอเรนซี หากคุณเปรียบเทียบกราฟบิทคอยน์และเหรียญดิจิทัลสกุลหลักอื่นๆ กราฟเหล่านี้มักจะมีการเคลื่อนที่ที่เป็นไปตามลักษณะเดียวกันอย่างชัดเจน โดยราคาได้ถอยลงมาในช่วงครึ่งต้นของสัปดาห์และกลับไปสู่ราคาเริ่มต้นในครึ่งหลัง มูลค่าตลาดรวมของตลาดคริปโตไม่มีการเปลี่ยนแปลงและอยู่ที่ $330 พันล้านเหรียญ

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD ทั้งออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ในตลาด H4 มีท่าทีที่เป็นกลาง ในขณะที่บนกราฟ D1 ยังมีสัญญาณแนะนำให้เลือกขายสำหรับคู่นี้ ในส่วนนักวิเคราะห์กำลังให้ความสนใจกับ “สงครามการค้า” ของสหรัฐฯ และข่าวเกี่ยวกับการบังคับใช้ภาษีศุลกากรในการนำเข้าอลูมิเนียมจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เม็กซิโก และแคนาดา โดยนักวิเคราะห์ส่วนมาก (55%) มีความเห็นโน้มเอียงไปว่าราคาน่าจะไต่ขึ้นมาที่โซน 1.1800 – 1.1830 ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ระบุว่าราคายังคงมีโอกาสที่จะถอยลงไปที่แนวรับในช่วง 1.1600
    ในระยะยาว ตัวเลขผู้เชี่ยวชาญที่สนับสนุนภาวะกระทิงเพิ่มขึ้นเกือบ 70% และมีเป้าหมายระบุที่ความสูง 1.2000 และแม้กระทั่ง 1.2200 สำหรับภาวะหมี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าราคาคู่นี้จะไม่สามารถขยับทะลุระดับแนวต้านที่ 1.1800 และแนวโน้มขาลงตลอดเวลาเจ็ดสัปดาห์จะยังคงดำเนินต่อไป
  • GBP/USD ดัชนีต่างๆ ของคู่นี้ปรากฏคล้ายคลึงกันกับดัชนีของคู่ EUR/USD เป็นอย่างมาก ในส่วนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญก็ไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าใดเช่นกัน โดยผู้เชี่ยวชาญ 60% คาดการณ์ว่าค่าเงินปอนด์จะปรับราคาสูงขึ้นไปที่ 1.3420 และในกรณีที่ราคาทะลุสำเร็จที่โซน 1.3500 ระดับแนวต้านถัดไปจะอยู่สูงขึ้นไปอีก 100 จุด
    อย่างไรก็ตาม ปัญหาของสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปยังคงปรากฏอยู่ และในกรณีที่มีข่าวเศรษฐกิจเชิงลบประกาศออกมา ค่าเงินปอนด์จะยังคงถดถอยลงโดยจะปรับตัวลงไปที่โซน 1.3085 ในส่วนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ก็เห็นด้วยกับภาพการณ์ดังกล่าวว่าราคาจะปรับไปที่แนวรับอีกระดับที่ 1.2900
  • USD/JPY เราได้พูดคุยเกี่ยวกับการลดซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยในขณะนี้ตลาดยังคงอยู่ในช่วงประเมินสถานการณ์ แต่ผู้เล่นรายใหญ่อาจตัดสินใจที่จะทำให้ราคาเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนัก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของญี่ปุ่นก็ได้แสดงออกถึงความกังวลว่าสงครามการค้าจะมีความตึงเครียดมากขึ้นกับญี่ปุ่นเช่นกัน
    ในขณะเดียวกัน ความเห็นของนักวิเคราะห์และดัชนีต่างๆ แบ่งออกเป็นกลุ่มที่เกือบเท่ากันทั้งหมดสามกลุ่ม หนึ่งในสามเห็นด้วยกับแนวโน้มขาลง อีกหนึ่งในสามเห็นด้วยกับขาขึ้น และอีกหนึ่งในสามเห็นด้วยกับเทรนด์ด้านข้าง แนวรับในที่นี้อยู่ที่ระดับ 108.95 108.65 และ 107.50 โดยค่าแนวต้านอยู่ที่ 110.00 110.45 และ 111.10
  • คริปโตเคอเรนซี การวิเคราะห์ตลาดแสดงให้เห็นไม่เฉพาะแต่สกุลเงินดิจิทัลที่จะตกต่ำลงเท่านั้น แต่รวมถึงผู้เล่นในตลาดนี้เช่นเดียวกัน เช่น OKCoin ตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปซึ่งเป็นถึงอันดับหนึ่งเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งที่ 188 โดยทั่วไปแล้ว ในช่วงเวลานี้มีตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตชั้นนำจำนวน 8 จาก 10 ตลาดที่ได้สูญเสียตำแหน่งของตน
    การเริ่มให้บริการฟิวเจอร์สสำหรับคริปโตเคอเรนซี รวมถึงทัศนคติเชิงลบของนักลงทุนตามสถาบันต่างๆ ส่งผลให้เกิดผลกระทบในทางลบกับทั้งอัตราการเคลื่อนที่ของราคาในปัจจุบันและบทวิเคราะห์ทำนายราคา ด้วยเหตุนี้ มีความเป็นได้ว่าเราคาดว่าจะไม่มีปรากฏการไต่ขึ้นของราคาเงินดิจิทัลเหมือนกับที่เราเคยได้เห็นเมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว
    ปัจจุบัน คู่เงินคริปโตหลักทั้งหมดกำลังเดินตามรอยเงินคริปโตผู้นำอย่าง BTC/USD ซึ่งแม้ว่าจะมีความผันผวนต่ำลงแต่ราคาก็แข็งตัวอยู่ที่ช่วง 7,150
    หากเราทำตามทฤษฎีการวิเคราะห์กราฟ เราจะเห็นได้ว่ากราฟปรากฏเป็นรูปทรงปลายแหลม (Pennant) อย่างไรก็ตาม ทิศทางการวิ่งของราคาย่อมไม่ได้ขึ้นอยู่กับทฤษฎีฟอเร็กซ์ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและท่าทีของสถาบันกำกับตลาดการเงินรายใหญ่ต่างๆ
    ในกรณีที่ราคามีการฟื้นตัวในทิศทางขาขึ้น เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาบิทคอยน์จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 11,700 โดยราคา BTC/USD อาจจะเริ่มจากการกลับมาที่โซนเหนือ 9,000 ก่อน หากในกรณีที่ราคามีพัฒนาการในทางลบ เราจะได้เห็นราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงมาที่โซน 5,000 – 6,000 โดยในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาบิทคอยน์จะทดสอบค่าแนวรับที่โซน 7,025 – 7,200

    สำหรับเงินคริปโตสกุลอื่นๆ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ราคา Ethereum (ETH/USD) Litecoin (LTC/USD และ Ripple (XRP/USD) น่าจะเป็นไปตามราคาบิทคอยน์ในอนาคตอันใกล้นี้โดยไม่มีแนวโน้มที่แปลกแยกแต่อย่างใด

 

โรมัน บุทโก, NordFX

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา