บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 20 - 24 สิงหาคม 2561

อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (60%) สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและดัชนีต่างๆ ได้คาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะขยับลงมาที่โซน 1.1120-1.1300 และในความเป็นจริงราคาก็ได้เคลื่อนที่มาที่ระดับ 1.1300 เมื่อวันพุธที่ 15 สิงหาคม แต่ราคาก็ไม่ได้ลงไปมากกว่านั้น ราคาได้กลับตัวและกลับมาที่โซน 1.1400 ในช่วงท้ายสัปดาห์ นักวิเคราะห์มองว่าสถานการณ์ของค่าเงินลีราตุรกีที่เริ่มทรงตัวกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เทรนด์มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่ายังคงมองว่าภาวะทรงตัวนี้ยังเป็นคงแค่ชั่วคราว และพายุหนักน่าจะโหมกระหน่ำอีกครั้งในเร็วๆ นี้
  • GBP/USD 45% ของผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้อยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป (oversold) ได้คาดการณ์ว่าราคาจะมีการปรับตัว ซึ่งได้เกิดขึ้นจริงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันจันทร์ ราคาได้ขยับขึ้นไปที่ระดับ 1.2825 อย่างไรก็ตาม คำทำนายหลักก็คือเทรนด์ขาลงจะยังคงดำเนินต่อไป ปัญหา Brexit ยังคงมีผลพวงอยู่ ดังนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงได้เห็นพ้องกันว่าราคาน่าจะขยับลงมาที่โซน 1.2675-1.2720 ในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อพิจารณาการตีกลับของราคาทั่วไปนั้น บทวิเคราะห์ดังกล่าวถือว่าถูกต้องอย่างชัดเจน ราคาได้ขยับลงมาที่ 1.2660 และปิดตลาดห้าวันทำการที่ระดับ 1.2745
  • USD/JPY การขยายตัวของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังส่งผลให้ค่าเงินเยนเป็นค่าเงินลี้ภัยต่อไป ทั้งนี้ ได้มีสัญญาณว่าราคาจะตัดกรอบด้านล่างในช่องระยะกลางขาขึ้นลงมาในช่วงครึ่งแรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมปีนี้ โดย ณ ขณะนั้น ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะเรียกว่าการทะลุของราคา แต่ผู้เชี่ยวชาญเกือบ 70% เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนจะยังคงดำเนินต่อไป และราคาน่าจะตกลงมาที่ระดับ 110.30 คำทำนายดังกล่าวปรากฏออกมาว่าแม่นยำเช่นเดียวกัน โดยราคาต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 110.10 และราคาสุดท้ายปิดตัวที่โซน 110.50
  • คริปโตเคอเรนซี ข่าวสารจากแวดวงบิทคอยน์ถือว่าเป็นปัจจัยเชิงบวก คู่ราคา BTC/USD ไม่สามารถทะลุระดับ 5,760 ลงไปได้สำเร็จและก็เป็นไปตามที่เราได้ทำนายว่าราคาน่าจะวิ่งอยู่ที่ช่วง 5,760-6,800 และนี่ก็เป็นผลมาจากการปรับตัวของราคาครั้งใหญ่ทำให้มูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตลดลงมาเหลือ $1.89 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา BTC  “ทรงตัว” ก็คือการขุดเหมืองที่ระดับต่ำกว่าระดับราคาที่ $6,000-6,1000 นั้นแทบจะไม่ทำกำไรอีกต่อไป และนักขุดเหมืองส่วนใหญ่ก็พยายามชดเชยให้คืนทุนกัน ด้วยเหตุนี้ระดับแนวรับที่ 5,760 จึงเป็นระดับที่ไม่สามารถตัดผ่านลงไปได้ตั้งแต่ช่วงที่ราคาทรุดตัวลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560
    Litecoin (LTH) Ripple (XRP) และเหรียญคริปโตหลักตัวอื่นๆ ได้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ราคาตกลงไปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สกุลเงินคริปโตอันดับสองอย่าง Ethereum (ETH) ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน แต่ก็มีความยากลำบากสำหรับอีธีเรียมมากกว่าสกุลเงินคริปโตอื่นๆ เพราะมีแรงต้านต่ออีธีเรียม ทั้งนี้ตามการวิจัย Invest in Blockchain พบว่า 60 สกุลเงินคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุด จากทั้งหมด 100 นั้นไม่อยู่บนพื้นฐานผลิตภัณฑ์ทำงานใดๆ ทั้งนี้ไม่รวมถึงเหรียญโทเคนเล็กๆ และการเปิดขายเหรียญระยะแรก (ICO) ส่วนใหญ่นั้นทำในสกุล ETH และตอนนี้ก็มีบางโปรเจคที่ประสบความสำเร็จและเร่งรีบที่จะขายเงินอีธีเรียม ทำให้เกิดความเกรงกลัวว่าราคาในตลาดจะยิ่งลดลงต่อไป 

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD ปัจจัยหลักที่ส่งผลควบคุมการเคลื่อนที่ของคู่เงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้จะเป็นการเจรจารอบถัดมาระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ ในที่ประชุมทางเศรษฐกิจที่ Jackson Hole
    นักลงทุนไม่ตั้งความคาดหวังไว้สูงกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะได้รับความชัดเจนจากนายพาวเวลล์เกี่ยวกับนโยบายการตึงตัวเชิงปริมาณและการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น โดยตามความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ หากภาวะการขาดเสถียรภาพในตลาดมีผลต่อไป อาจนำไปสู่ภาวะวิกฤติในตลาดและอาจส่งเป็นวิกฤติการเงินระดับโลกครั้งใหม่ โดยปัญหาปัจจุบันในตุรกีอาจเป็นสัญญาณแรก
    ในระหว่างนี้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ดังนี้ 55% ของผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 มองว่าราคาคู่นี้จะขยับลงไปอีก ในขณะที่อีก 45% ของผู้เชี่ยวชาญรวมถึงการวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 ทำนายกราฟขาขึ้น ในกรณีนี้ เราควรให้ความสนใจว่าบนกรอบเวลา H4 มีสัญญาณ 10% ของออสซิลเลเตอร์ที่ชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป (overbought)
    เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดสำหรับตลาดกระทิงคือ 1.1525 และเป้าหมายถัดไปได้แก่ 1.1575 และ 1.1630 ในขณะที่เป้าหมายของภาวะหมีอยู่ในโซน 1.1270-1.1300 จากนั้นค่าแนวรับถัดมาคือ 1.1165
  • GBP/USD ดูเหมือนว่าแม้แต่ตัวเลขที่น่าประทับใจของปริมาณการขายปลีกก็ไม่ช่วยค่าเงินเปอนด์อังกฤษเท่าใดนัก ความกลัวเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit ส่งผลครอบงำทุกอย่าง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (60%) คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังคงแข็งค่าขึ้นต่อไปโดยราคาจะลดตัวลงมาในช่วงแรกก่อนที่ระดับ 1.2660 และจากนั้นจะลงไปที่โซน 1.2600
    อีกมุมมองทางเลือกหนึ่งเป็นของทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญจำนวน 40% ที่คาดการณ์ว่าราคาจะมีการปรับตัวและราคาจะกลับขึ้นไปที่กรอบด้านบนของช่องขาลงในระยะกลางที่ 1.3010 โดยมีระดับแนวต้านกลางอยู่ที่ 1.2825 1.2910 และ 1.2950 ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือเมื่อเราขยับการวิเคราะห์จากรายสัปดาห์เป็นรายเดือน มีผู้เชี่ยวชาญที่สนับสนุนภาวะกระทิงนี้เพิ่มมากขึ้นจาก 40% เป็น 65%

  • USD/JPY แม้ว่าจะมีออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ที่ให้สัญญาณแล้วว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป (oversold) ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังคงเชื่อว่าเทรนด์ในโลก หรือเหตุการณ์สงครามทางเศรษฐกิจระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นตัวกำหนดเทรนด์ราคาในกรณีนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะมีการโต้ตอบและการข่มขู่ที่จะบังคับใช้ภาษีนำเข้ารอบใหม่จากทั้งสองฝ่ายในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนรอบนี้ และดังนั้น ความต้องการถือค่าเงินเยนญี่ปุ่นเป็นที่ลี้ภัยจะเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่นักวิเคราะห์ 75% คาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่โซน 109.00 และมีนักวิเคราะห์เพียง 25% ที่เชื่อว่าราคาจะกลับมาที่ระดับ 111.00-112.00 โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 113.15
    หากเราพูดถึงบทวิเคราะห์ในระยะกลาง ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% ต่างมั่นใจว่าราคาจะไม่สามารถตัดผ่านระดับแนวรับสำคัญของปี 2017-2018 ในโซน 108.00 ได้สำเร็จ และราคาจะค่อยๆ กลับขึ้นมาที่กรอบด้านบนของช่องราคารอบสองปีที่ 114.45 คริปโตเคอเรนซี
  • ปัจจัยเชิงลบก็ยังคงส่งผลครอบงำตลาดทำให้การไหลเข้าของเงินลงทุนใหม่ๆ ถูกจำกัดเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดที่เติบโตขึ้นในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ที่ผ่านมาจนสูงขึ้นกว่า $2.04 แสนล้านนั้นเป็นสัญญาณที่ดี นักเทรดยังคงซื้อบิทคอยน์และอัลท์คอยน์แม้ในช่วงเวลาแห่งการถดถอย อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถเรียกการลงทุนดังกล่าวว่าเป็นการลงทุนระยะยาวได้ ในส่วนนี้มักเป็นการลงทุนสั้นในรอบวันหรือรอบสัปดาห์มากกว่า โดยนักเทรดจะปิดตำแหน่งหากราคาขึ้นโดยทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไมบิทคอยน์ประสบความยากลำบากที่จะขยับขึ้นไปเหนือระดับ $6,830 ข่าวเชิงบวกที่สำคัญอาจช่วยเป็นแรงกระตุ้นได้ในกรณีนี้ และอาจทำให้ราคา BTC/USD สามารถขยับไปที่ระดับ $6,850-7,150
    ทั้งนี้ หากราคาตัดทะลุแนวรับที่ $5,760 จะเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับการแห่เทขายคริปโตเคอเรนซี แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก็มองว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อันเนื่องมาจากเหตุผลที่ได้อธิบายไว้ในส่วนแรกข้างต้น

 

โรมัน บุทโก, NordFX

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา