บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 10 - 14 กันยายน 2561

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD สำหรับเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ คำทำนายของสัปดาห์ที่แล้วปรากฏออกมาว่าแม่นยำอย่างสมบูรณ์ เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 6 กันยายน เราได้เห็นค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและราคาคู่นี้ก็ได้ขยับสูงขึ้น และในช่วงท้ายสัปดาห์ค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นและราคาคู่นี้ก็ได้ขยับลดลงเนื่องด้วยข้อมูลเชิงบวกจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายฤดูร้อน ค่าความผันผวนก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อยู่มาก โดยมีค่าผันผวนมากสุดเพียง 130 จุด ทั้งนี้ ตลาดตอบสนองอย่างค่อนข้างนิ่งเฉยต่ออัตราการเติบโตของดัชนี NFP (ดัชนีนอนฟาร์ม) ที่ 36.7% (จาก 147k เป็น 201k) และด้วยเหตุนี้ ราคาคู่นี้จึงปิดตลาดห้าวันทำการที่ 1.1552 โดยค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตำแหน่งขึ้นมาเพียง 50 จุด
  • GBP/USD ต่างจากค่าเงินยูโร ค่าความผันผวนของเงินปอนด์สูงขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากแถลงการณ์ใหม่จากเจ้าหน้าที่อาวุโสยุโรปเกี่ยวกับประเด็น Brexit จึงทำให้ความผันผวนสูงกว่า 240 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์กระโดดขึ้นครั้งสุดท้ายเกิดจากถ้อยแถลงของนายมิเชล บาร์เนีย ผู้แทนจากฝั่งอียู เกี่ยวกับสถานการณ์เขตแดนระหว่างอังกฤษและไอร์แลนด์ ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (60%) จึงคาดการณ์ว่าราคาคู่นี้น่าจะขยับขึ้นในทิศเหนือถึงที่ระดับ 1.3025 ภายในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาการประกาศข่าวดัชนีแรงงานสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นขึ้น 110 จุด ทำให้ราคาคู่นี้คล้ายกันกับคู่ EUR/USD โดยกลับไปที่ค่าเริ่มต้นของสัปดาห์และหยุดอยู่ที่ระดับ 1.2915
  • USD/JPY คำทำนายซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 55% ออสซิลเลเตอร์และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ได้ทำนายการเคลื่อนที่ของราคาในช่องด้านข้างในช่วงแคบๆ ที่ 110.00 - 111.45 สถานการณ์ดังกล่าวปรากฏออกมาว่าค่อนข้างแม่นยำโดยมีแรงต้านเล็กน้อย ราคาคู่นี้ขยับอยู่ในช่วง 110.37 - 111.75 ก่อนที่จะกลับไปที่โซนกลางในช่วงปลายสัปดาห์และปิดตลาดที่ 111.00
  • คริปโตเคอเรนซี คำทำนายสำหรับคู่ BTC/USD ได้คาดการณ์ว่าราคาจะขยับไปที่ $7,760 ในตอนแรก (ในความเป็นจริงราคาขยับขึ้นไปที่ $7,400) และก็ตามมาด้วยการปรับตัวก่อนที่ราคาจะลดตัวลง แต่ก็ไม่ต่ำกว่าโซนการทำกำไรจากการขุดเงินคริปโตที่ $6,000 - 6,230 ในความเป็นจริง ราคาบิทคอยน์ได้ลดลงมาที่ระดับแนวรับ 6,300 โดยเสียมูลค่าเกือบ 15% ภายในเวลาเพียง 16 ชั่วโมง ในส่วนสถานการณ์ของอีธีเรียมก็น่าเศร้ายิ่งกว่า เพราะราคาคู่ ETH/USD เสียมูลค่าเกือบ 30% โดยขยับจาก 302.1 ลงมาที่ 211.6 ในส่วนราคา Litecoin (LTH) ลดลงมา 22% และ Ripple (XRP) ลดลง 20%
    มีเหตุผลที่เป็นไปได้สองประการ ได้แก่ 1) การตัดสินใจของแพล็ตฟอร์ม ShapeShift ที่กำหนดให้มีการลงทะเบียนผู้ใช้งานและเริ่มเก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน และ 2) ข่าวว่า Goldman Sachs จะไม่ตั้งหน่วยพิเศษสำหรับการเทรดคริปโตเคอเรนซี (ซึ่งต่อมาสรุปว่าข่าวนี้เป็นข่าวปลอม)
    ในความเป็นจริง ทั้งสองเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดเงินคริปโตเท่าใดนัก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางการตัดสินใจของบริษัทเอกชนเท่านั้น แต่ก็อย่างที่เคยได้อธิบายให้ทราบแล้วในก่อนหน้านี้ว่าหากผู้เล่นรายใหญ่ต้องการให้ตลาดนี้ล่มสลาย พวกเขาก็จะพยายามหาข้ออ้างมารองรับเหตุการณ์นี้

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD จากมุมมองของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่จะต้องจับมองในวันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายนนี้ คือ การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และคาดว่าจะมีการแถลงข่าวในวันเดียวกันเช่นกัน สำหรับอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะไม่เป็นที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด แต่สำหรับงานแถลงข่าว อาจมีข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะเริ่มใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงินของยูโรโซน แม้ว่าการใช้นโยบายดังกล่าวคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ก็ไม่สามารถพูดได้กับผลการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ
    ในวันพฤหัสเดียวกันนี้ ทางฝั่งสหรัฐฯ จะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อ ระดับเงินเฟ้อที่สูงจะกลายเป็นสัญญาณสำคัญให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ตลาดมีความมั่นใจเกือบ 100% ว่าสัญญาณนี้น่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน บรรดานักเทรดและผู้เชี่ยวชาญจึงต่างรอคอยคำตอบว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้หรือไม่
    จากความคาดหวังดังกล่าว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (60%) จึงโหวตว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และราคาคู่นี้จะขยับลดลง ในส่วนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และสัญญาณประมาณ 85% ของออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ก็เห็นด้วยกับคำทำนายดังกล่าว โดยแสดงระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.1530 และ 1.1400 ในส่วนเป้าหมายของปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.1300 และ 1.1125
    ผู้เชี่ยวชาญอีก 40% ที่เหลือเชื่อว่าการปรับตัวของราคายังคงไม่สิ้นสุดลง และดังนั้น ราคาสามารถเคลื่อนที่ในช่องด้านข้าง 1.1530 - 1.1745 ได้อีกสักระยะหนึ่ง ในส่วนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้ถูกขายมากเกินไปและเห็นด้วยกับคำทำนายนี้

  • GBP/USD ดัชนีเศรษฐกิจมหภาพจากอังกฤษจะประกาศในวันจันทร์นี้ (ค่า GDP) และในวันอังคาร (ค่าเงินเดือน) และอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ ธนาคารกลางอังกฤษจะประกาศผลการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ระดับ 0.75% ดังนั้นความสนใจจะไม่อยู่ที่อัตราดอกเบี้ย แต่เป็นจำนวนคะแนนเสียงที่โหวตให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และตลาดก็จะยังคงติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการ “แยกตัว” ของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปอีกด้วย
    ในสถานการณ์นี้ การพิจารณาดัชนีเทรนด์ รวมถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญก็ต่างแตกออกเป็นสองกลุ่มเท่าๆ กัน ออสซิลเลเตอร์ก็ไม่ได้ให้สัญญาณที่ชัดเจนแต่อย่างใดเช่นกัน โดยมีสัญญาณ 50% เป็นสีเทากลาง 25% เป็นสีเขียว และอีก 25% เป็นสีแดง
    สำหรับการวิเคราะห์กราฟชี้ว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้นและราคาคู่นี้จะขยับลดลงมาที่โซน 1.2785 - 1.2800 และต่อมาจะลดต่ำลงไปอีกที่ระดับ 1.2660 จากการดูกราฟในกรอบ D1 ในส่วนกรอบ H4 การวิเคราะห์กราฟก็ชี้ว่ายังมีโอกาสที่ราคาจะขยับตามจุด Pivot Point 1.2935 ในช่องด้านข้างที่ 1.3035 - 1.3040 เป็นเวลาสองสามวันก่อนที่จะขยับลงในทิศใต้
  • USD/JPY ชุมชนการเงินต่างให้ความสนใจในบทความของนายเจมส์ ฟรีแมน จากนิตยสาร Wall Street Journal ซึ่งกล่าวโดยสรุปได้ว่าญี่ปุ่นจะกลายเป็นเป้าหมายใหม่ในสงครามทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในบทความดังกล่าว นายฟรีแมนอ้างถึงบทสนทนาส่วนตัวทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    ดังนั้น ญี่ปุ่นอาจกำลังอยู่ใกล้โซนสงครามที่ญี่ปุ่นเองก็พยายามหลีกเลี่ยง หากคุณพิจารณาเหตุการณ์นี้ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของภาษีการขายที่วางแผนไว้ในปีหน้าและการพึ่งพิงน้ำมันของอิหร่าน อำนาจที่เป็นต่อกว่าจะตกเป็นของทางฝั่งอเมริกา โดยอัตราค่าจ้างแรงงานและการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนนำไปสู่ระดับเงินเฟ้อที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2% เคียงข้างกับญี่ปุ่น
    ณ ตอนนี้ คะแนนเสียงของผู้เชี่ยวชาญแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ 55% ที่โหวตราคาขาลง และ 45% โหวตราคาขาขึ้น ในส่วนดัชนีก็ไม่ได้ให้ภาพสัญญาณที่ชัดเจนใดๆ และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 วาดสัญญาณคู่นี้ไว้อยู่ในช่วง 110.30 - 111.80 โดยเมื่อเปลี่ยนไปดูกราฟ D1 จะเห็นว่าช่วงสัญญาณขยายขึ้นเป็น 109.80 - 112.15
  • คริปโตเคอเรนซี: มีความเป็นไปได้สูงว่าตลาดหมีจะไม่หยุดเท่านี้ และคู่ BTC/USD จะพยายามที่จะตัดทะลุระดับ $6,000 ลงมาโดยจะเข้าใกล้กับราคาต่ำสุดของปีที่โซน $5,760 แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ว่าราคาอาจจะพักอยู่สักระยะ โดยจะวิ่งในด้านข้างที่ $6,230 - 6,640 และมีระดับแนวต้านถัดไปในโซน $6,895 - 6,985

 

โรมัน บุทโก, NordFX

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา