บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 22-26 ตุลาคม 2561

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD ตามที่คาดการณ์ไว้ สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งการประกาศสถิติเศรษฐกิจมหภาคจากทางฝั่งสหรัฐฯ รายงานระดับเงินเฟ้อในยุโรป อังกฤษ และจีน ดัชนีสภาพเศรษฐกิจในเยอรมนีและสหภาพยุโรป การประชุมคณะกรรมาธิการธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าด้วยตลาดเปิด ข้อมูลค่า GDP ของจีน และการประชุมสุดยอดผู้นำอียูเรื่อง Brexit
    เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ได้ส่งผลต่อการก่อตัวของเทรนด์ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญของเราจึงได้มีบทวิเคราะห์ออกมาเป็นสองสถานการณ์หลัก สถานการณ์แรกคือ “ตลาดกระทิง” ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้นของราคา โดยในตอนแรกราคาจะขยับขึ้นไปที่ตรงกลางของช่องระยะกลางที่ 1.1525-1.1830 และหลังจากนั้นจะขยับขึ้นสู่กรอบด้านบนต่อไป และสถานการณ์ที่สอง “ตลาดหมี” คือ การแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้ราคาตกลงมาที่แนวรับ 1.1430
    ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้น อะไรที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นก็ได้เกิดขึ้นจริง และผลลัพธ์คืออะไร? จริงๆ แล้วไม่มีผลใดๆ ในตอนแรก ราคาเป็นไปตามคำทำนาย “ตลาดกระทิง” ครึ่งหนึ่งโดยราคาขึ้นไปที่ระดับ 1.1621 จากนั้นก็เป็น “ตลาดหมี” โดยราคาแตะกรอบด้านล่างในโซน 1.1430 หลังจากนั้น ราคากลับไปอยู่จุดเดิม ณ สองสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดเดียวกับราคาในเดือนสิงหาคม มิถุนายน และพฤษภาคม ที่ระดับ 1.1513
  • GBP/USD คำทำนายโดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่และที่ได้รับการยืนยันโดยดัชนีเทรนด์จำนวน 80% และออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 จำนวน 70% ปรากฏว่าเป็นจริง 100% โดยตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ราคาคู่นี้คาดว่าจะขยับขึ้นถึงระดับ 1.3225 ซึ่งได้เกิดขึ้นจริงในวันอังคารที่ 16 ตุลาคม
    ในส่วนระยะกลาง ฝั่งตลาดหมีควรจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบมากกว่า โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่ราคาต่ำสุดของช่วงต้นเดือนตุลาคมในโซน 1.2920 โดยทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ ราคาวกทิศทางลงมาด้านล่าง แต่ ณ ตอนนี้ ราคาได้ขยับลงมาถึงที่แนวรับ 1.3010 เท่านั้น หลังจากนั้นราคาก็เริ่มฟื้นตัวและปิดตลาดที่โซน 1.3065
  • USD/JPY ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราไม่สามารถให้คำแนะนำที่ชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับคู่นี้: โดยมีผู้เชี่ยวชาญ 45% ที่โหวตให้กับแนวโน้มขาลงของราคา 20% โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้น และอีก 35% ที่เห็นด้วยกับแนวโน้มด้านข้าง ผลปรากฏว่ากลุ่ม 35% เป็นฝ่ายที่ถูกต้อง โดยช่วงความผันผวนสูงสุดของราคาไม่เกิน 110 จุด ทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก ราคาเริ่มต้นที่ระดับ 112.20 และปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 112.55 ดังนั้น ค่าเงินดอลลาร์จึงฟื้นตัวชนะค่าเงินเยนเพียง 35 จุดในห้าวันทำการที่ผ่านมา
  • คริปโตเคอเรนซี หลายครั้งเราเคยอธิบายว่าปัจจัยหลักที่เป็นตัวกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของคริปโตเคอเรนซีไม่ใช่สภาพเศรษฐกิจและไม่ใช่ตัวเลขจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค หากแต่เป็นข่าวสารและข่าวลือต่างๆ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งการยืนยันที่ชัดเจนของคำอธิบายดังกล่าว
    เช้าวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม ผู้ถือบิทคอยน์ส่วนใหญ่ต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจและตะโกนว่า “เย้!” ในที่สุดมันก็เริ่มขึ้นแล้ว โดยอัตราแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ในตลาดบางแห่งพุ่งขึ้นจากระดับ $6,380 เป็น $7,700 ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 20%!
    ข่าวนี้เกิดจากปัญหากับเงินคริปโตสกุล Tether (USDT) นักเทรดทั่วไปเริ่มแห่ขายเหรียญสกุลดังกล่าว และกว้านซื้อบิทคอยน์ จึงส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยน BTC/USD พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
    แต่ข่าวดีนี้ก็ไม่จีรัง ไม่นานก็เกิดความชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นเพียงการปลุกปั่นซึ่งตามมาด้วยราคาที่ทรุดตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน และอัตราแลกเปลี่ยนก็ได้กลับมาอยู่ที่ระดับปกติของช่วงหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของข่าวปลอมคือคนที่ทำกำไรงามและคนที่เชื่อในข่าวปลอมนี้ก็ขาดทุนเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ที่ตั้งคำสั่ง Stop Loss หรือ Margin Call จากช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นก็ต้องผิดหวังด้วยเช่นกัน
    เราไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม แต่คำทำนายว่าบิทคอยน์กำลังผลักตัวออกจากจุดต่ำสุดของช่วง โดยราคาน่าจะกลับไปที่ $6,325-6,835 ซึ่งปรากฏว่าถูกต้องอย่างสมบูรณ์ และราคา BTC/USD ณ วันเสาร์อยู่ที่ $6,535
    โชคชะตาของบิทคอยน์เป็นตัวกำหนดคริปโตเคอเรนซียดดนิยมที่เหลือหลายตัว เช่น Ripple (XRP/USD) และ Ethereum (ETH/USD) ปิดตลาดโดยราคาปรับขึ้นมาเล็กน้อย ต่างจาก Litecoin (LTH/USD) ซึ่งปิดตลาดโดยมีผลลัพธ์เป็นศูนย์

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD แม้ว่านักวิเคราะห์บางคนจะพูดถึงเหตุการณ์ประมาณ 5-10 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ในความเห็นของเรามองว่าการให้ความสนใจกับปฏิทินเศรษฐกิจอาจไม่คุ้มค่าในกรณีนี้ และคาดว่าจะไม่ปรากฏเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจใดๆ เป็นพิเศษสำหรับนักเทรด ดังนั้น นักเทรดควรให้ความสนใจกับบทวิเคราะห์ระยะยาวและการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลักมากกว่า
    การให้บทวิเคราะห์สำหรับคู่ EUR/USD ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (70%) ประเมินผลงานของค่าเงินดอลลาร์ในทางบวก ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป้าหมายของอัตราแลกเปลี่่ยนนี้ยังคงเป็นที่ระดับแนวรับ 1.1430 และ 1.1300 โดยมีดัชนีเทรนด์จำนวน 70% และออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และกว่า 80% ในกรอบ D1 เห็นด้วยกับสถานการณ์นี้
    ผู้เชี่ยวชาญที่เหลือซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 เชื่อว่าราคาคู่นี้ได้ขยับลงมาหนึ่งระดับและในขณะนี้ กรอบระยะกลางที่ 1.1525-1.1830 ได้กลายเป็นจุด Pivot Point สำหรับช่องด้านข้างใหม่ที่ 1.1430-1.1625 ซึ่งราคาจะขยับอยู่ในช่วงดังกล่าวสักระยะ

  • GBP/USD ผลการเจรจาในประเด็น Brexit ถึงทางตันอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นที่ชัดเจนว่าลอนดอนและบรัสเซลส์จะไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ภายในกลางเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางสถานการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มากกว่า 90% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าค่าเงินปอนด์อังกฤษจะขยับลงมาอีก แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.3010 เป้าหมายอยู่ที่ 1.2900 และมีค่าแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.3100-1.3130 โดยแนวต้านถัดไปสูงขึ้นมาอีกที่ 1.3215
  • USD/JPY หากในกรณีคู่ GBP/USD ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ภาพสถานการณ์ของ USD/JPY จะเป็นไปในทางกลับกัน ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมองว่าเงินเยนญี่ปุ่นน่าจะแข็งค่าขึ้น โดยทั้งนักวิเคราะห์จำนวน 65% การวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 เห็นด้วยกับสถานการณ์นี้ และเป้าหมายอยู่ที่ 112.00, 111.65 และ 110.70
    อีกมุมมองหนึ่งเป็นของนักวิเคราะห์จำนวน 35% และดัชนีจำนวน 70% ในกรอบ H4 ค่าระดับแนวต้านอยู่ที่ 112.75 และ 113.50
  • คริปโตเคอเรนซี แน่นอนว่าพวกเรารวมถึงนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คำทำนายได้ว่าจะมีข่าวปลอมเกิดขึ้นมาอีกเมื่อใด อย่างไรก็ตามได้มีข่าวลือแพร่กระจายว่า Wall Street กำลังเตรียมความพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดคริปโตรอบที่สอง โดยหนึ่งในบริษัทถือหุ้นขนาดใหญ่ Fidelity Investments, Goldman Sachs รวมถึงธนาคารเพื่อการลงทุนอื่นๆ อาจกลายเป็น “แรงผลักดันข่าวช็อค” อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือความหวังของแฟนๆ บล็อกเชน
    ณ ขณะนี้ ตลาดอยู่ในช่วงแข็งตัว ดังนั้น เราจึงสามารถทำได้เพียงให้คำทำนายซ้ำกับคำทำนายก่อนหน้าโดยมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย การเคลื่อนที่ของคู่ BTC/USD คาดว่าจะอยู่ในช่วง $6,325-$6,900 ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นรายใหญ่อาจพยายามที่จะกดราคาให้ตกลงไปที่ระดับทำกำไรจากการขุดเหมืองในช่วง $6,100 ที่ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้อาจจะเริ่มกวาดซื้อเหรียญอีกครั้ง
    เหตุการณ์ปลุกปั่นที่คล้ายกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ไม่น่าจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้

 

โรมัน บุทโก, NordFX

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา