แท่งเทียนญี่ปุ่น: - ภูมิปัญญาที่ได้รับการพิสูจน์

บทวิเคราะห์ขององค์ประกอบแท่งเทียนสำหรับการทำนายตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดการเงินอื่น ๆ

สำหรับธุรกรรมออนไลน์ในตลาดการเงิน บริษัทโบรกเกอร์ NordFX นำเสนอเทอร์มินอลการเทรดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกให้กับลูกค้า คือ MetaTrader 4 (MT4) หลังจากดาวน์โหลดแพล็ตฟอร์มนี้แล้ว นักเทรดจะเห็นตัวเลือกสามแบบในการแสดงกราฟราคาของสินทรัพย์การเทรดในส่วน “คุณสมบัติ” ได้แก่ กราฟแท่ง กราฟเส้น และกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น

ทั้งนี้ อาจดูเหมือนว่ากราฟแท่งเทียน โดยเฉพาะกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นนั้นยากต่อการใช้เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่นี่เป็นเพียงแค่แวบตาแรกเท่านั้น

ประวัติกราฟแท่งเทียน

เริ่มต้นกันที่เกร็ดประวัติศาสตร์เล็กน้อย ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 ในเวลานั้น นักเทรดชาวญี่ปุ่นเริ่มใช้วิธีการนี้ในการทำนายตลาดราคาข้าว วิธีนี้คิดค้นขึ้นโดยพ่อค้าที่มีชื่อว่า มูเฮนิสะ ฮอมมะ ผู้เริ่มศึกษาประวัติการค้าข้าวทั้งหมดในเมืองโอซากา เขาศึกษาไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงของราคาเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุผลเบื้องหลังและแง่มุมด้านจิตวิทยาในการซื้อขาย นายมูเฮนิสะ ฮอมมะ ประสบความสำเร็จมากจนถึงขั้นในที่สุดเขาได้รับตำแหน่งซามูไรและเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับรัฐบาล ซึ่งใช้วิธีการวิเคราะห์แท่งเทียนญี่ปุ่นของเขากับสินค้าตลาดอื่น ๆ เช่นกัน เขาเป็นเจ้าของหนังสือสามเล่น ได้แก่ "The Three Monkey Record of Money" เรื่อง "The Candlestick Trading Bible" และเรื่อง "Candlesticks Made Easy"

ในฐานะนักเทรด นายมูเฮนิสะ ฮอมมะ มีความโดดเด่นในแนวทางบูรณาการเพื่อการศึกษาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เขาเข้าใจว่าความสำเร็จโดยส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับความเร็วในการได้รับข้อมูลที่สำคัญและได้พัฒนาระบบการส่งต่อข่าวด่วนเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ ในระยะทางทุก ๆ หนึ่งกิโลเมตรจะมีคนคอยอยู่ที่สถานีเพื่อส่งต่อข่าวโดยใช้สัญญาณแสง ทำให้นายมูเฮนิสะ ฮอมมะ อยู่เหนือคู่แข่งของเขาและทำการซื้อขายที่ทำกำไรได้มากกว่า 100 ครั้งติดต่อกัน

250 ปีต่อมา นักเทรดสามารถรับข่าวสารการเงินที่สำคัญมากที่สุดได้ทางออนไลน์โดยใช้ฟีดข่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในฟังก์ชันของเทอร์มินอล MT4 ประกอบกับกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น และแม้ว่าจะแทบไม่มีใครสามารถรับประกันว่าคุณจะเทรดได้กำไรติดกัน 100 ครั้งและได้ติดยศซามูไรเป็นรางวัลตอบแทนนั้น ทั้งสองตัวเลือกนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยเหลือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง คอยให้สัญญาณคุณในการเปิดคำสั่งเทรดในทิศทางที่ถูกต้อง ณ เวลาที่ถูกต้อง

การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเพิ่งเข้าสู่โลกแห่งการเทรดของฝั่งตะวันตกไม่นานนี้เอง ในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 ที่ผ่านมา การสะท้อนกราฟสินทรัพย์รวมถึงในตลาดฟอเร็กซ์นั้นมีเพียงสามวิธีหลักเท่านั้น ได้แก่ “กราฟ Point & Figure” กราฟแท่ง และกราฟเส้น (สองอย่างสุดท้ายก็เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือใน MetaTrader 4 เช่นกัน) การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดหลังจากการตีพิมพ์หนังสือเรื่อง Japanese Candles ในปี 1991 เกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟในตลาดการเงิน หนังสือเล่มนี้โด่งดังเป็นอย่างมาก และเจ้าของหนังสือ นายสตีฟ นิสัน มีชื่อเสียงมากจนเขาได้เปิดบริษัทที่ปรึกษาเป็นของตนเองที่ชื่อว่า Nison Research International

หลังจากเล่มแรก นายนิสันได้ตีพิมพ์ผลงานฉบับที่สองของเขาเรื่อง Beyond Candlesticks หนังสือทั้งสองเล่มนี้เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่รวบรวมรูปทรงที่ปรากฏจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคของแท่งเทียนเพียงไม่กี่แบบเท่านั้น

อีกหนึ่งหนังสือที่ควรกล่าวถึงคือเรื่อง Candlestick Charting Explained: Timeless Techniques for Trading Stocks and Futures ของนายเกรกอรี แอล มอร์ริส แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญและนักเทรดบางท่านมีข้อวิจารณ์บางประการเกี่ยวกับเล่มนี้ก็ตาม นอกจากนี้ยังควรให้ความสนใจกับผลงานเรื่อง “Encyclopedia of Candlestick Charts” ของนายโธมัส บุลโกวสกี้ และผลงานเรื่อง “Japanese Candles. Collection of Models” และ “Japanese Candles. Features of Application” ของนายวลาดิเมียร์ กุเซฟ หนังสือทุกเล่มนี้อุทิศให้กับรายละเอียดในเชิงลึกในการใช้งานการวิเคราะห์ประเภทนี้ และยังนำมาปรับใช้ในตลาดฟอเร็กซ์ด้วยเช่นกัน

ประเภทของแท่งเทียนญี่ปุ่น: Bulls, Bears และ Doji

แท่งเทียนญี่ปุ่นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในหมู่นักเทรดเนื่องด้วยเนื้อหาข้อมูลที่ครอบคลุมเมื่อเทียบกับกราฟเส้น แท่งเทียนญี่ปุ่นมีองค์ประกอบ ได้แก่ ส่วนแท่งเทียน (body) และไส้เทียน (shadows) (หนึ่งหรือสอง) ส่วนแท่งเทียนคือระยะห่างระหว่างราคาเปิดและปิดตัวในระยะเวลาที่เลือก (บน MT4 ได้แก่ M1, M5, M15, M30, H1, H4, D1, W1 หรือ MN) ไส้เทียนด้านบนแสดงถึงราคาสูงสุดที่ราคาได้ขยับถึงในช่วงเวลานั้น ๆ และไส้เทียนด้านล่างคือราคาต่ำสุด

แท่งเทียนมีสองประเภทด้วยกัน ได้แก่ แท่ง “กระทิง และ “หมี” (รูปที่ 1)

แท่งกระทิงนั้นปรากฏขึ้นจากแรงซื้อของฝั่งผู้ซื้อ (หรือศัพท์ในวงการที่เรียกว่า “กระทิง”) แท่งเทียนมีราคาปิดแท่งเทียนที่อยู่เหนือราคาเปิด (รูปที่ 1a) ในวรรณกรรมคลาสสิกที่พูดถึงก่อนหน้านี้ กราฟแท่งเทียนนี้จะเป็นสีขาว แต่ในแพล็ตฟอร์มการเทรดสมัยใหม่ เช่น MetaTrader 4 นักเทรดสามารถเปลี่ยนสีแท่งเทียนตามที่ตนเองต้องการ โดยส่วนใหญ่จะใช้สีเขียวสำหรับแท่งกระทิง

แท่งเทียน “หมี” ก่อตัวขึ้นจากแรงกดดันของฝั่งผู้ขาย (“หมี”) ดังนั้น ราคาปิดจะต้องอยู่ต่ำกว่าราคาเปิดเสมอ (รูปที่ 1b) ในตำราต่าง ๆ แท่งเทียนนี้มีสีดำ หากเราพูดถึงเทอรมินอล MT4 มักนิยมใช้สีแดงสำหรับแท่งเทียนนี้

องค์ประกอบแท่งเทียนทั้งหมดมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลกับนักเทรด ความยาวของไส้เทียน ขนาดของแท่งเทียนสามารถบอกเราว่าอารมณ์ฝั่งใดที่กำลังควบคุมคลาดอยู่ในขณะนี้ เป็นฝั่ง “กระทิง” หรือ “หมี” ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่ากัน และฝั่งใดที่กำลังหมดแรง

นอกจากนี้ เรายังอยากให้คุณให้ความสนใจว่า คุณสามารถพบกับแท่งเทียนญี่ปุ่นบนกราฟที่ราคาเปิดเท่ากันกับราคาปิด ซึ่งโดยทั่วไปจะปรากฏขึ้นในช่วงระยะเวลาที่มีสภาพคล่องลดลงหรือมีความไม่แน่นอน (ชั่วโมงการซื้อขายที่คึกคัก วันหยุด หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ การขาดผู้เล่นรายใหญ่ ช่วงรอฟังข่าวเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ) แท่งเทียนที่พบบ่อยกลุ่มนี้เรียกว่า “Doji” และเนื่องจากแท่งเทียน Doji นั้นไม่ปรากฏส่วนช่วงตัวของแท่งเทียน จึงไม่สามารถจัดกลุ่มได้ว่าเป็นแบบ “กระทิง” หรือ “หมี” รูปที่ 2 แสดงถึงชื่อประเภทสำคัญ ๆ  ได้แก่: รูปที่ 2a - "Star", 2b - "Long-legged Doji", 2c - "Tombstone" และรูปที่ 2d - "Dragonfly"

วิเคราะห์แท่งเทียนญี่ปุ่นอย่างไร?

แท่งเทียนคือแหล่งข้อมูลที่สำคัญมากที่สุด ซึ่งช่วยให้คุณเห็นพัฒนาการที่จะมาถึงล่วงหน้า ข้อเท็จจริงก็คือการผสมผสานและรูปทรงพิเศษทำให้เกิดรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลายครั้งในแต่ละปี การวิเคราะห์แท่งเทียนญี่ปุ่นในการเทรดตั้งอยู่บนพื้นฐานของรูปแบบเหล่านี้และการตีความที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้เอง การศึกษากราฟแท่งเทียนและการหารูปแบบทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นเฉพาะกับแท่งเทียนที่ก่อตัวและปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น นี่คือกฎพื้นฐาน การทำผิดกฎอาจนำมาซึ่งผลที่ตามมาที่น่าผิดหวังได้ การเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาที่ทำงาน (กรอบเวลา) อาจมีการวาดรูปแท่งเทียนขึ้นหลายครั้ง ดังนั้นตราบใดที่การปิดตัวของแท่งเทียนยังไม่สมบูรณ์ สัญญาณที่ปรากฏไม่สามารถถือได้ว่าเป็นคำสั่งให้ลงมือปฏิบัติได้

ความหลากหลายของรูปแบบแท่งเทียน

โดยทั่วไป รูปแบบแท่งเทียนทั้งหมดมักแบ่งออกเป็นแบบเรียบง่ายและแบบซับซ้อน รูปแบบเรียบง่ายประกอบด้วยแท่งเทียนหนึ่งหรือสองแท่ง (รูปที่ 3) ซึ่งสามารถพบได้บ่อยมากที่สุดเวลาที่ศึกษากราฟสินทรัพย์ เช่น แท่งเทียนต่อไปนี้เป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย: 3a - "Hammer", 3b - "Hanged Man", 3c - "Doji", 3d - "Absorption", 3e - "Harami" (คำญี่ปุ่นแปลว่า ตั้งครรภ์)

การผสมผสานที่ซับซ้อน (รูปทรง) ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่งขึ้นไป แต่กลุ่มนี้มักเจอไม่บ่อยในทางปฏิบัติ (รูปที่ 4) ที่น่าสนใจก็คือ การศึกษาหลายครั้งชี้ให้เห็นว่า ความซับซ้อนของแท่งเทียนนั้นไม่จำเป็นต้องส่งผลดีต่อการวิเคราะห์เสมอไป พูดง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งมีแท่งเทียนจำนวนเพิ่มขึ้นมาเกี่ยวข้องในรูปทรงก็ไม่ได้เป็นตัวรับประกันความแม่นยำในการทำนายที่เพิ่มขึ้น

รูปด้านล่างนี้แสดงถึงทางเลือกในการผสมผสานที่ซับซ้อนของแท่งเทียน ได้แก่: 4a - "Three White Soldiers", 4b - "Morning Star", 4c - "Three Doji Stars".

รูปแบบแท่งเทียนมีหลายสิบหรือหลายร้อยรูปแบบ เราไม่สามารถที่จะพูดถึงแท่งเทียนได้ทุกรูปแบบในบทความฉบับเดียวได้ ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณทำความคุ้นเคยกับตำราหนังสือต่าง ๆ ที่แนะนำไปข้างต้น ทั้งนี้ เราสังเกตเห็นว่า ในมุมมองของการทำนายราคานั้น การผสมผสานของแท่งเทียนมักจะแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ โดยขึ้นอยู่กับว่าตลาดจะไปในทิศทางใดหลังจากมีรูปแบบใด ๆ เกิดขึ้น โดยจัดกลุ่มได้ดังนี้: แท่งเทียนกลับตัว (เช่น รูปที่ 5a  “Shooting Star”) เทรนด์ต่อเนื่อง (5b - “Holding on tatami "ในเทรนด์ขาขึ้น) และความไม่แน่นอน (5c)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รูปแบบเหล่านี้เป็นแค่การผสมผสานกันส่วนหนึ่งเท่านั้น และประสิทธิภาพในการใช้งานรูปทรงใด ๆ ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุณกำหนดอีกด้วย ซึ่งได้แก่ เวลาในการซื้อขาย กรอบเวลาที่ใช้วิเคราะห์ คู่สกุลเงินที่เทรด หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ตลอดจนปัจจัยอีกมากมาย แพล็ตฟอร์มของบริษัทโบรกเกอร์ NordFX ให้บริการคู่สกุลมากกว่า 30 คู่ รวมถึงคริปโตเคอเรนซี หุ้น 70 บริษัทชั้นนำระดับโลก และดัชนีหลักทรัพย์มากมาย และสินทรัพย์ทางการเงินแต่ละชนิดล้วนมีแนวทางเป็นของตนเอง

ความสามารถในการอ่านกราฟแท่งเทียน อ่านแท่งเทียน ขนาดไส้เทียน การผสมผสานกันที่เกิดขึ้น สามารถบอกอะไรเได้หลายอย่าง และช่วยให้นักเทรดเข้าใจอารมณ์ของผู้ร่วมซื้อขาย อย่างไรก็ตาม คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการผสมผสานการวิเคราะห์รูปแบบกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ อินดิเคเตอร์เทรนด์ และออสซิลเลเตอร์ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ได้ผล ทำให้คุณสามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดฟอเร็กซ์ และในตลาดการเงินอื่น ๆ

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา