มกราคม 25, 2020

อันดับแรกเป็นการทบทวนเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว:

  • EUR/USD เงินยูโรอ่อนค่าลงอีกครั้ง โดยปรับลดประมาณ 70 จุดเทียบกับเงินดอลลาร์ตลอดห้าวันที่ผ่านมา มีเหตุผลรองรับสองประการ ได้แก่ การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสในจีน และท่าทีที่ระมัดระวังอย่างมากของ คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปคนใหม่
    เป็นที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจจีน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากสงครามการค้าล่าสุด และหากเศรษฐกิจของจีนย่ำแย่ เศรษฐกิจของยุโรปก็จะเผชิญกับปัญหาอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน ในปี 2003 โรคแพร่ระบาดในจีนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 700 คนและทำให้ยอดขายปลีกลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง แต่แม้ว่าไวรัสตัวใหม่นี้จะถือว่าอันตรายน้อยกว่า ไวรัสตัวนี้สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าไวรัสตัวก่อน เหตุผลสนับสนุนก็คือโครงสร้างพื้นฐานในจีนที่ปัจจุบันพัฒนาดีขึ้นกว่าในอดีตมาก ราคาน้ำมันเป็นสินทรัพย์แรกที่ตอบสนองต่อข่าวแพร่ระบาดนี้ แต่ตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศก็ไม่ได้ตอบสนองอยู่นานเท่าใดนักช
    ในส่วนท่าทีของลาการ์ด เธอทำให้นักลงทุนต้องผิดหวัง โดยเธอแถลงว่าการทบทวนยุทธศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรปเป็นกระบวนการที่ยาวนานและกว่าจะเสร็จสิ้นคงเป็นช่วงปลายปี 2020 นอกจากนี้จากข่าวที่ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าจะปรับเพิ่มภาษีสินค้าส่งออกจากยุโรป ลาการ์ดให้ความเห็นว่า “ความเสี่ยงของยูโรโซนหันเหไปในทิศทางขาลงของเศรษฐกิจ” และธนาคารกลางยุโรปจะต้องรักษานโยบายทางการเงินในแนวทางที่ผ่อนปรนเป็นอย่างมาก
    คำแถลงดังกล่าวโดยประธานธนาคารกลางยุโรป ข่าวไวรัสแพร่ระบาดในจีน ประกอบกับดัชนีที่เป็นบวกในกิจกรรมทางธุรกิจในเยอรมนี (PMI) ไม่ได้ช่วยเงินยูโรแต่อย่างใด และค่าเงิน EUR/USD ลดลงมาที่ระดับ 1.1020 ภายในปลายสัปดาห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีผู้เชี่ยวชาญ 40% และดัชนีส่วนใหญ่ที่เตือนว่าราคาจะโจมตีระดับ 1.1000 โดยมีออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 จำนวน 75% ในกรอบ D1 65% และดัชนีเทรนด์ในกรอบ H4 100% และ D1 90% ชี้ไปทางทิศใต้
  • GBP/USD ด้วยการเติบโตของตัวเลขกิจกรรมทางธุรกิจ (PMI) ในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์อังกฤษจึงขยับถึงระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 1.3172 ก่อนที่จะกลับทิศทางลงอีกครั้ง ความคาดหวังให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของธนาคารแห่งชาติอังกฤษในวันที่ 30 มกราคมนี้ รวมถึงสถานการณ์โคโรนาไวรัสในจีนส่งผลลบต่อราคา
    การวิเคราะห์กราฟในสัปดาห์ที่แล้วคือคำทำนายที่ถูกต้องแม่นยำมากที่สุดสำหรับกราฟการเคลื่อนที่ของคู่ GBP/USD ในตอนท้าย ราคาได้ปิดตลาดที่ระดับ 1.3080 โดยปรับตัวเลขโซนวกกลับระยะยางในทิศทางขาขึ้นมาที่ช่วง 1.3050-1.3085
  • USD/JPY ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ความผันผวนที่ต่ำเป็นอย่างมากของคู่ EUR/USD ชี้ว่ายังไม่มีความสมดุลระหว่างสกุลเงินทั้งสองนี้ และ ณ ตอนนี้ เงินยูโรและเงินดอลลาร์มีความสมดุลในทางหนึ่ง และสกุลเงินของตลาดประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศเหล่านี้ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ใกล้เคียงอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสจากจีนเป็นพิเศษ
    ผลปรากฏว่า เงินเยนได้รับประโยชน์มากที่สุดจากกระแสความกังวลดังกล่าว แต่ก็มีความคาดหวังที่เลือนลางเนื่องจากเงินเยนเป็นเพียงสกุลเงินหลบภัยสำหรับนักลงทุนจากพายุการเงินที่คาดการณ์ไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งในสามจึงโหวตให้กับแนวโน้มขาลงของาคา และออสซิลเลเตอร์จำนวนมากกว่าให้สัญญาณแล้วว่าราคาถูกซื้อมากเกินไป โดยแม้ว่าจะไม่อาจทำนายข่าวไวรัสล่วงหน้าได้ แต่ก็เป็นกลุ่มที่ให้คำทำนายที่ถูกต้องมากที่สุด ราคาได้เปลี่ยนแนวรับที่ 109.65-109.70 เป็นแนวต้านอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ตั้งหลักด้านล่างที่ระดับ 109.17 สำหรับในช่วงปลายสัปดาห์ ราคาปิดตลาดใกล้เคียงมากกับระดับ 109.27
  • คริปโตเคอเรนซี หากใครบางคนเคยวาดฝันว่าเงินคริปโตจะเป็นอิสระและเสรีจากการกำกับตรวจสอบโดยระบบการเงินของรัฐ พวกเขาคงลืมไปได้เลย ตัวอย่างที่เห็นก็คือ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยูเครนประกาศว่า หน่วยงานบริการตรวจสอบด้านการเงินของรัฐจะทำการสืบสวนว่าประชาชนประเทศยูเครนได้รับสกุลเงินคริปโตมาจากที่ใด โดยรัฐมนตรีมองว่าเครื่องมือของหน่วยงานนี้จะทำให้พวกเขาตรวจสอบได้ทั้งแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัลและว่าเงินเหล่านั้นนำไปใช้กับอะไร นอกจากนี้ บริการนี้ยังมีอำนาจที่จะสั่งระงับคริปโตเคอเรนซีและยึดสินทรัพย์ที่ประชาชนชาวยูเครนได้มาอย่างผิดกฎหมาย
    เป็นเรื่องชัดเจนว่าข่าวนี้ไม่ได้ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับลดลง แต่ข้อเท็จจริงก็คือบิทคอยน์ไม่สามารถตั้งหลักเหนือระดับ $9,000 ได้สำเร็จ และในวันศุกร์ที่ 24 มกราคม ราคาตกลงมาที่โซน $8,250-8,450
    ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางส่วน สิ่งที่ต้องกล่าวโทษสำหรับราคาขาลงครั้งนี้ก็คือ...เทศกาลตรุษจีน เมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์การเทรดในช่วงเวลานี้ตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ความเสี่ยงของการขาดทุนสะสมของเหรียญบิทคอยน์จะปรากฏขึ้นท่ามกลางอัตราการเติบโตโดยรวมทั้งหมด ตามการคำนวณแล้วพบว่าในทวีปเอเชียมีประชากรประมาณ 10% ที่มีเงินเก็บสะสมในสกุลเงินคริปโต และช่วงก่อนปีใหม่จีน พวกเขาจะเริ่มแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดและใช้จ่ายไปกับของขวัญและการเฉลิมฉลองในช่วงวันหยุด
    อัลคอยน์อื่นๆ : Ethereum (ETH/USD), Litecoin (LTC/USD) และ Ripple (XRP/USD) เดินตามรอยบิทคอยน์ตามปกติ โดยมูลค่าในตลาดเงินคริปโตลดลงจาก $251 เหลือ $236 พันล้านเหรียญ

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น สำหรับธนาคารกลางยุโรปแล้ว เงินยูโรที่อ่อนค่าในตอนนี้นั้นเป็นผลดีกว่าเงินยูโรที่แข็งค่า หลักการนี้ทำให้ฝั่งตลาดกระทิงไม่กล้าที่จะเสี่ยง จึงยิ่งทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงกว่าเดิม เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดในเทรนด์ขาลงคือ 1.1000 ตามมาด้วย 1.0960 และตามมาด้วยราคาต่ำสุดของวันที่ 1 ตุลาคม 2019 ที่ -1.0880 ส่วนนักวิเคราะห์ 55% ในตอนนี้ได้โหวตให้กับแนวโน้มขาลง ซึ่งสนับสนุนโดยออสซิลเลเตอร์ 85% และดัชนีเทรนด์ 100% ไม่เพียงแค่บนกรอบเวลา H4 และ D1 แต่รวมถึง W1 อีกด้วย
    มุมมองในทางตรงกันข้ามเป็นของผู้เชี่ยวชาญ 45% และออสซิลเลเตอร์ 15% ที่ให้สัญญาณในโซน oversold นอกจากนี้ เมื่อปรับคำทำนายจากรายสัปดาห์มาเป็นรายเดือน จำนวนผู้สนับสนุนตลาดกระทิงเพิ่มขึ้นเป็น 70% เป้าหมายหลัก ณ ตอนนี้คือการตัดทะลุระดับแนวต้านสำคัญในโซน 1.1065 ตามมาด้วย 1.1100 และ 1.1175
    สำหรับการตัดสินใจของธนาคารเฟดในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยวันที่ 29 มกราคม มีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะคงที่ที่ระดับเดิมคือ 1.75% และการประชุมในครั้งนี้จะไม่มีอิทธิพลใดมากนักต่อราคาคู่ดังกล่าว 
  • GBP/USD เรียบร้อยแล้ว! วันศุกร์ที่ 31 มาถึงแล้ว ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนดการลาจากของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป เบร็กซิตที่ทุกคนพูดถึงมาเป็นเวลานานก็ถึงคราวเสร็จสิ้นในที่สุด อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า ณ เวลานี้ เหตุการณ์นี้จะยิ่งส่งแรงกดดันต่อตลาด กระบวนการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียูอย่างราบรื่นในครั้งนี้ยิ่งลดความเสี่ยงในการลงทุน นอกจากนี้ ค่าเงินปอนด์ต่ำในช่วงนี้ยังช่วยหนุนเศรษฐกิจอังกฤษในหลายทาง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดระหว่างประเทศ
    หากไม่มีเหตุการณ์น่าประหลาดใจใดๆ จากเบร็กซิต เงินปอนด์อาจดูค่อนข้างนิ่งสงบ แต่โอกาสที่เงินปอนด์จะแข็งค่าขึ้นต่อเงินยูโรรวมถึงเงินดอลลาร์ก็ยังไม่ถูกตัดออกไป ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญ 65% คาดการณ์ว่าราคาจะขยับไปทางทิศเหนือ อันดับแรกไปที่แนวต้าน 1.3160 และจากนั้นไปที่ระดับ 1.3200
    คำทำนายทางเลือกเป็นของผู้เชี่ยวชาญ 35% ซึ่งคาดการณ์ว่าคู่ GBP/USD จะขยับลดลงต่อไป สถานการณ์น่าจะมีความเป็นไปได้หากการประชุมของธนาคารอังกฤษในวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม อย่างน้อยให้สัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในกรณีนี้ สกุลเงินปอนด์อังกฤษมีโอกาสสูงที่จะขยับลงทิศใต้ต่อไปหลังจากตัดทะลุแนวรับที่ 1.3040, 1.3000 และ 1.2960 ราคาสามารถถึงระดับต่ำสุดของเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในโซน 1.2900 และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ก็สนับสนุนแนวโน้มนี้อย่างชัดเจน

บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 27 - 31 มกราคม 20201

  • USD/JPY ในส่วนดัชนียังคงมีความสับสน แต่ออสซิลเลเตอร์ 10% ให้สัญญาณอย่างชัดเจนแล้วว่าราคาคู่นี้ถูกขายมากเกินไป นักวิเคราะห์ 60% สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เชื่อว่าราคาจะหยุดขยับลงเช่นกัน โดยเป้าหมายคือการดีดตัวขึ้นไปที่โซน 110.20-110.30 แนวต้านถัดไปคือ 110.80
    ผู้เชี่ยวชาญ 40% ที่เหลือเข้าข้างตลาดหมีซึ่งเชื่อว่า เทรนด์ขาลงในสัปดาห์ที่แล้วจะมีผลต่อไป ดัชนี Dow Jones มุ่งไปที่ 30.000 และคู่ USD/JPY น่าจะตัดผ่านระดับ 109 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนคู่รองของเงินเยนญี่ปุ่นขยับลดลงทุกคู่ แนวรับหลักคือ 108.40 และแนวรับถัดไปอยู่ต่ำลงมา 60 จุด
  • คริปโตเคอเรนซี ควบคู่ไปกับบิทคอยน์ ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ก็ขยับลงเล็กน้อยเช่นกัน จาก 54 เหลือ 40 ซึ่งยังไม่ใช่โซนเกรงกลัวของตลาด แต่นักลงทุนก็ไม่ดึงดูดเป็นพิเศษที่จะเปิดตำแหน่งซื้ออีกต่อไป
    แม้แต่กูรูเงินคริปโตบางรายก็ยังลดระดับความกระหายของตน ในทวีตข้อความล่าสุด นักวิเคราะห์และนักเทรดเงินคริปโต นาย Josh Rager แสดงความเห็นว่า เช่นเดียวกันกับตลาดประเภทอื่นๆ บิทคอยน์มี “กฎแห่งผลตอบแทนที่ลดลง” และโอกาสในการทำกำไรในวัฎจักรแต่ละครั้งก็ลดลงเช่นกัน “ราคาสูงสุดครั้งถัดไปของบิทคอยน์จะไม่สูงมากอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด บางคนมองไปที่ $100,000, $300,000, และ $1 ล้านเหรียญ เราควรพิจารณาส่วนต่างของกำไรที่ลดลงประมาณ 20% ในแต่ละวัฎจักรด้วย นอกจากนี้ ผมคิดว่าราคาสูงสุดในครั้งถัดไปจะอยู่ในช่วง $75,000 ถึง $85,000" เขียนโดยนักวิเคราะห์รายนี้ โดยท่าทีของนาย Rager บนประเด็นนี้ได้รับการสนับสนุนโดยบริษัทการวิเคราะห์เงินคริปโต ByteTree
    หากเราพูดถึงคำทำนายในอนาคตอันใกล้ก็ยังคงดูไม่สดใสเท่าใดนัก ผู้เชี่ยวชาญ 50% คาดหวังว่าคู่ BTC/USD จะลดลงมาที่โซน $7,500-8,000 โดย 30% โหวตให้กับเทรนด์ด้านข้างและมีเพียง 20% ที่คาดว่าราคาจะขยับเหนือระดับ $9,000 อย่างไรก็ตาม เมื่อปรับมาเป็นคำทำนายรายเดือน จำนวนผู้สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของเงินคริปโตเพิ่มเป็น 70%

 

โรมัน บุทโก, NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้


« การวิเคราห์ตลาดและข่าว
รับการฝึก
มือใหม่ในตลาดใช่ไหม?ใช้ส่วน เริ่มฝึกฝน เริ่มฝึกฝน
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)