พฤษภาคม 30, 2020

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว

  • EUR/USD สกุลเงินยูโรแข็งค่าตลอดทั้งสัปดาห์ แม้ว่าสถิติเศรษฐกิจในยูโรโซนจะค่อนข้างอ่อนแอก็ตาม ราคาถูกหนุนให้ตัดทะลุกรอบด้านบนของช่อง 1.0750-1.1000 และขยับขึ้นไปที่ระดับ 1.1145 จากข่าวมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในอียู ซึ่งรวมถึงแผนการของอียูในการอัดฉีดเงินโดยตรงและขยายงบประมาณอย่างจริงจัง ธนาคารสวิสที่แลกซื้อ EUR ด้วยสกุลเงินประเทศก็ช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้กับเงินยูโรเช่นกัน
    จนถึงช่วงท้ายสัปดาห์ ฝั่งตลาดหมีที่ตอนแรกคึกคักก็เริ่มสงบลงจากคำกล่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับมาตรการสหรัฐฯ ต่อจีนรอบใหม่ โดยทั่วไปแล้ว ค่าเงินยูโรจะอ่อนค่าทันทีที่มีข่าวความระหองระแหงระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง เนื่องจากนี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของปัญหาทางเศรษฐกิจใหม่ในยุโรป แต่จากความเห็นของนักวิเคราะห์หลายท่านมองว่า อัตราแลกเปลี่ยนยูโรปรับลงมาต่ำมากแล้ว และจะต้องมีข่าวตลาดหมีที่หนักหน่วงมากจริง ๆ ถึงจะสามารถผลักราคาให้ต่ำลงไปกว่านี้ ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงขยับลดลงเล็กน้อยโดยอยู่ใต้กรอบขาขึ้นในรอบสี่วันและปิดตลาดที่ 1.1100
  • GBP/USD ในสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์อ่อนค่าลงไม่ใช่เพราะว่าเงินยูโรที่แข็งค่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคู่เงินปอนด์และเงินเยนเช่นกัน สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น แม้ว่าคำแถลงของ นายไมเคิล ซาวน์เดอรส์ กรรมการนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งชาติอังกฤษ จะฟังดู “ผ่อนปรน” ก็ตาม สถานการณ์นี้ได้ทำนายไว้โดยนักวิเคราะห์ 30% ที่มองว่าราคาจะกลับมาสู่โซนตรงกลางของช่อง 1.2165-1.2650 ส่วนบทวิเคราะห์ที่แม่นยำที่สุดเป็นของการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ซึ่งตั้งเป้าว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 1.2350 และในบริเวณนี้เองที่เงินปอนด์คงตัวอยู่เกือบตลอดช่วงการซื้อขายและปิดตลาดที่บริเวณดังกล่าว
  • USD/JPY ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (65%) ได้คาดการณ์ว่าคู่ USD/JPY จะกลับมายังระดับต่ำสุดของวันที่ 6 พฤษภาคมในโซน 106.00 และเมื่อถึงช่วงเริ่มต้นของวันที่ 29 พฤษภาคม ราคาก็ดิ่งลงไปจริง แต่ถึงแค่เพียง 107.07 เท่านั้น โดยความผันผวนในรอบสัปดาห์ของคู่นี้ต่ำกว่า 90 จุด แม้ว่าสองเดือนก่อนหน้านี้ ราคาเคยผันผวนมากกว่านี้ถึงสิบเท่าในเวลาแค่ห้าวัน
    จริงอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 กำลังคืนสู่สภาวะปกติอย่างช้า ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ความแตกต่างในเงื่อนไขกฎระเบียบที่กำกับสกุลเงินหลัก ๆ ค่อย ๆ เลือนหายไป เห็นได้จากอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินหลักในกลุ่ม G3 ด้วยเหตุนี้เอง ความผันผวนของสกุลเงินเยนญี่ปุ่นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจึงไม่เหมือนเดิมดังในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
    หากเราพูดถึงผลลัพธ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาคู่ได้ติดอยู่ในช่องแคบมาก ๆ ที่ช่วง 107.30-108.00 และปิดตลาดที่ 107.80
  • คริปโตเคอเรนซี มาเริ่มกันที่ข่าวที่น่ากลัวที่สุด บิทคอยน์มีจำนวนวันเหลือไม่มาก กล่าวโดย MasterChangz ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง ซึ่งพยายามที่จะแฮ็คเข้าว็อลเล็ตเงินคริปโตโดยการเจาะรหัสส่วนตัว เขาระบุว่า รหัสของเหรียญดิจิตอลบิทคอยน์นี้จะถูกเขาแฮ็คสำเร็จภายในเวลา 5 ปี “ขณะนี้ ผมวิเคราะห์รหัสกว่า 600 ล้านรหัสต่อวินาที แต่ทุก ๆ สองปี ความเร็วในการเลือกเจาะรหัสจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่า เนื่องจากการอัปเดตทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์” เขียนโดย MasterChangz
    แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้ดูน่ากลัวมากเท่าใดนัก และบิทคอยน์จะยังคงอยู่อีกระยะหนึ่ง “ในทางเทคนิคแล้ว การเจาะรหัสส่วนตัวนั้นเป็นไปได้ แต่มันใช้เวลานานมาก” กล่าวโดย ลูค ดาชซ์ร์ นักพัฒนาจาก Bitcoin Core เขาคำนวณแล้วว่ามันจะต้องใช้เวลาประมาณ 38593493520073954175290747912192 ปีที่จะถอดรหัสวอลเล็ตบิทคอยน์รุ่นเก่าที่ง่าย ๆ โดยใช้การ์ดจอระดับกล่าง
    แดนนี ดิโครเจอร์ นักพัฒนาจาก Cash App ก็มีข้อกังขาเกี่ยวกับความสำเร็จของแผนดังกล่าวเช่นกัน เขาเชื่อว่า แม้ว่านาย MasterChangz จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผลของเทคโนโลยีได้ถึงพันเท่าและเจาะรหัสเป็นเวลา 100 ปี โอกาสในการเจอรหัสที่เหมาะสมสำหรับการแฮ็คเข้าวอลเล็ตจะเท่ากับ  0.00000000000000000000000000000000000001%
    และตอนนี้ เมื่อสถานการณ์สงบลงแล้ว เราจะมาพูดถึงคำทำนายของผู้เชี่ยวชาญที่ให้ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว คะแนนเสียงนั้นแบ่งเป็นหลายกลุ่มค่อนข้างเท่ากันในช่วงราคา $8,400 - $10,000 ในกราฟจริงก็เช่นกันแต่ช่วงราคาแคบกว่าเล็กน้อย ในตอนแรก ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงจนถึงกรอบด้านล่างที่ $8,600 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ตามมาด้วยการกลับตัวของเทรนด์ และคู่ BTC/USD ตัดผ่านระดับแนวต้านที่ $9,600 ในวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า เทรนด์ขาขึ้นเช่นนี้เป็นผลมาจากธุรกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งมีรายงานจาก WhaleAlert ระบุว่ามีบิทคอยน์จำนวน 11,660 BTC (มูลค่ากว่า $111 ล้านเหรียญ) ถูกโอนระหว่างวอลเล็ตนิรนามสองวอลเล็ต
    ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม ราคาบิทคอยน์อยู่ในโซน $9,400 โดยมูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตเพิ่มขึ้นในรอบเจ็ดวันจาก $246 พันล้านเหรียญ เป็น $265 พันล้าน (+7.7%) และดัชนี Crypto Fear & Greed Index ปรับขึ้นมา 6 จุด จาก 42 ขึ้นมาที่ 48
    มาถึงสถิติอีกเล็กน้อย บริษัทชำระเงิน Revolut รายงานว่า หลังจากที่ปริมาณการซื้อขายในเดือนมีนาคมลดลง 52% จำนวนลูกค้าที่เทรดคริปโตเคอเรนซีเพิ่มขึ้น 68% ในเดือนเมษายน และในช่วงปลายเดือน จำนวนการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 57% ในช่วงสองเดือนนี้เอง 51% ของธุรกรรมทั้งหมดเป็นของ Bitcoin (BTC/USD), Ripple (XRP/USD) - 20%, และ Ethereum (ETH/USD) - อีก 14% ส่วน Litecoin (LTC/USD) อยู่ในอันดับที่สี่ที่ 8% จากธุรกรรมทั้งหมด
    ความต้องการถือ Ripple นั้นค่อนข้างน่าประหลาดใจ เพราะว่าราคาปรับลดลงมากกว่า 60% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่บิทคอยน์แม้ว่าจะมีจุดสูงสุดและต่ำสุด แต่การเปลี่ยนแปลงในรอบปียังคงเป็นศูนย์ เพราะในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2019 ราคาก็อยู่ในโซน $9,000 และทั้งหมดนี้เป็นไปแม้ว่าอัตราการออกเหรียญ XRP ขยับถึงแค่ 30% เท่านั้นจากปริมาณเหรียญทั้งหมด ตรงกันข้ามกับ 87.5% ของ BTC บางทีอาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่เร่งซื้อ Ripple อาจเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มองเหรียญอัลท์คอยน์สกุลนี้ว่ายังมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงและคาดหวังว่าราคาจะพุ่งทะยานในที่สุด

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้

  • EUR/USD เป็นที่ชัดเจนว่าในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา อินดิเคเตอร์ตั้งแต่ 90% ถึง 100% ในกรอบ H4 และ D1 มองไปทางขาขึ้น และมีออสซิลเลเตอร์เพียง 10% เท่านั้นที่ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในโซน overbought แต่นักวิเคราะห์เกือบครึ่งหนึ่งยังคงสงสัยยในความเป็นไปได้ที่ยูโรจะแข็งค่าขึ้นต่อไป ความกระหายในความเสี่ยงในตลาดเริ่มจางหายไป และหากสหรัฐฯ จะยังคงโจมตีจีน คู่ EUR/USD อาจกลับลงสู่ทิศใต้อีกครั้ง ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญว่า มีผู้เชี่ยวชาญเพียง 45% เท่านั้นที่ทำนายการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ แต่เมื่อหันไปวิเคราะห์กรอบเวลารายเดือน จำนวนผู้เชี่ยวชาญที่เห็นด้วยเพิ่มขึ้นถึง 70% ภารกิจถัดไปของฝั่งตลาดหมีคือการกดดันราคาให้ตกลงมาอยู่ในช่วง 1.0750-1.1000 แนวรับที่ 1.1065, 1.1000 และเส้นตรงกลางของช่องที่ 1.0900 ในส่วนแนวต้านตั้งอยู่ที่ระดับ 1.1145 และ 1.1240
    ในบรรดาเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ โปรดให้ความสนใจกับการประกาศสถิติกิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐฯ (ISM) ในภาคการผลิต ซึ่งจะประกาศในวันที่ 1 มิถุนายน และของภาคบริการในวันที่ 3 มิถุนายน ส่วนสถิติจากตลาดแรงงานเยอรมนีและอียูจะประกาศในวันพุธที่ 3 มิถุนายน การประชุมและแถลงข่าวของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน และสถิติจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ (รวมถึง NFP) ซึ่งตามปกติจะประกาศในวันศุกร์แรกของเดือนซึ่งเป็นวันที่ 5 มิถุนายนนี้

บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซีประจำวันที่  01 - 05 มิถุนายน 20201

  • GBP/USD หากการวิเคราะห์อินดิเคเตอร์ดูสับสนและชี้ว่าราคาจะขยับด้านข้าง ความเห็นของนักวิเคราะห์ดูชัดเจนมากกว่า ในที่นี้นักวิเคราะห์ 25% เห็นด้วยกับเทรนด์ด้านข้าง อีก 25% โหวตขาขึ้นของราคา และ 50% โหวตขาลง ซึ่งกลุ่มสุดท้ายนี้ได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 นอกเหนือไปจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเบร็กซิตยังคงส่งผลเป็นแรงกดดันต่อสกุลเงินปอนด์ นายฟิล โฮแกน กรรมาธิการยุโรป กล่าวในที่ประชุมสภายุโรปว่า สหราชอาณาจักรอาจตัดสินใจแล้วว่า ในขณะนี้ยังคงไม่มีเงื่อนไขในข้อตกลงกับอียู อย่างไรก็ตาม เขายังมองว่าสถานการณ์อาจมีความชัดเจนมากกว่านี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายกลับสู่การเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
    ณ ขณะนี้ ระดับแนวรับ ได้แก่ 1.2245, 1.2165 และ 1.2075 ระดับแนวต้านที่ 1.2365, 1.2465 และ 1.2650
  • USD/JPY อย่างที่ระบุไว้ข้างต้น ความกระหายในความเสี่ยงของตลาดเริ่มลดลงอย่างมาก และหากประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังคงปลุกปั่นสถานการณ์กับจีนต่อไป ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แต่จะไม่สัมพันธ์กับเงินเยน ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเงินเยนญี่ปุ่นต่อดอลลาร์ (โดยเฉพาะหากผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงทำสถิติต่ำสุด) หรือคงตัวที่ระดับเดิมอย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
    ผลลัพธ์การสำรวจนักวิเคราะห์และการวิเคราะห์ด้วยอินดิเคเตอร์ก็ดูคล้ายกันเช่นกัน หนึ่งในสามมองไปทางทิศเหนือ หนึ่งในสามทิศใต้ และอีกกลุ่มสุดท้ายมองราคาด้านข้าง ระดับแนวรับ/แนวต้านอยู่ที่เดิม: จากบริเวณใต้ราคาปัจจุบัน 107.30, 106.80 และ 106.20 จากด้านบนที่ 108.00, 108.50 และ 109.25
  • คริปโตเคอเรนซี ณ ขณะที่กำลังเขียนบทวิเคราะห์นี้ ราคาบิทคอยน์กำลังแข็งตัวที่บริเวณ $9,400 และมีนักวิเคราะห์เพียง 30% ที่คาดการณ์ว่า ราคาจะสามารถตัดทะลุระดับสำคัญที่ $10,000 ในเวลาอีกไม่กี่วันข้างหน้า และยังจะสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อีกด้วย ปัจจัยกระตุ้นในที่นี้ พวกเขามองว่าเป็นความสนใจในสัญญาฟิวเจอร์สบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้น จึงส่งเป็นแรงผลักดันราคาบิทคอยน์ขึ้นไป ในส่วนนักวิเคราะห์ 70% ที่เหลือเชื่อว่าคู่ BTC/USD จะยังคงเคลื่อนที่ในช่วง $8,600-9,600 ต่อไป แม้ว่าพวกเขายังไม่ตัดโอกาสที่ราคาจะพยายามตัดทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่งเช่นกัน
    สำหรับคำทำนายของบรรดากูรูเงินคริปโต ทุกคนยังคงรอดูการพุ่งทะยานรอบใหม่อีกครั้ง อเล็กซิส โอฮาเนียน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์คริปโต Reddit และสามีของนักเทนนิสชื่อดัง เซเรนา วิลเลียมส์ กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลคล้ายกันกับช่วงฤดูใบไม้ผลิของแวดวงคริปโต เขากล่าวว่า ไม่เพียงแต่มูลค่าที่มั่นคงของบิทคอยน์มีบทบาทสำคัญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเติบโตของราคาหลังจากล้มเหลวไปในช่วงต้นเดือนมีนาคม ณ ตอนนี้ เทรนด์ขาขึ้นมีความถี่อยู่บ้าง และอุปสรรคสำคัญเรื่องการฮาล์ฟเหรียญบิทคอยน์หมดไปแล้ว เราเพียงแต่จำเป็นต้องเอาชนะผลที่ตามมาเล็ก ๆ น้อย ๆ และพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ต่อไป” กล่าวโดยหัวหน้า Reddit

 

 

กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX

 

มายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้


« การวิเคราห์ตลาดและข่าว
รับการฝึก
มือใหม่ในตลาดใช่ไหม?ใช้ส่วน เริ่มฝึกฝน เริ่มฝึกฝน
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)