มกราคม 9, 2021

อันดับแรกเป็นการทบทวนเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว:

  • EUR/USD ดอลลาร์อ่อนค่าลงและคู่ EUR/USD ขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ภาวะโรคระบาด COVID-19 เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และขณะนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากราคาสูงสุดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 จริงอยู่ที่ผลลัพธ์ของช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นศูนย์โดยไม่ใช่เหตุเฉพาะวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับท่าทีของผู้แทนธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เป็นทิศทางแนวนโยบายแบบตึงตัวมากขึ้น
    หลังจากการรับรองการเลือกตั้งของประธานาธิบดีไบเดนและผู้แทนเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และฉุดดอลลาร์ขึ้นไปด้วย นายโธมัส บาร์คิน ประธานธนาคารเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า การเติบโตของผลตอบแทนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวยืนยันความประสงค์ของนักลงทุนที่อยากเห็นอัตราดอกเบี้ย USD ที่อัตราสูงขึ้น และนายแพทริก ฮาร์คเกอร์ ประธานธนาคารเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียได้คาดการณ์ว่าจะเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2021 นี้ ทั้งหมดนี้ยิ่งส่งผลให้ความกะตือรือร้นของฝั่งผู้ซื้อลดลง และเริ่มปิดคำสั่งกับคู่ EUR/USD ทำให้ราคาปิดตลาดรอบสัปดาห์ที่ 1.2225
  • GBP/USD หลังจากพายุความอลหม่านเกี่ยวกับการลงนามในข้อตกลงเบร็กซิตคลี่คลายลง ราคาก็เดินตามรอยคู่สกุลเงิน EUR/USD ทำให้ GBP/USD ได้พักตัวระยะหนึ่ง โดยทำราคาสูงสุดที่ 1.3705 เมื่อวันที่ 4 มกราคม และกลับมาสู่ระดับเดิมเดียวกันกับช่วงกลางถึงปลายเดือนธันวาคมในช่วงท้ายสัปดาห์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ 1.3560
  • USD/JPY เมื่อสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เราได้ทำนายว่าราคาคู่นี้จะเคลื่อนที่จากเส้นตรงกลางไปยังกรอบด้านบนของช่องระยะกลาง ซึ่งเป็นกรอบที่ราคาได้ขยับมาอย่างราบเรียบตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2020 และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน ราคาได้ดีดออกจากเส้นตรงกลางถึงสองครั้งเมื่อวันที่ 4 และ 5 มกราคมที่ผ่านมา และขยับขึ้นไปอย่างรวดเร็วยังกรอบด้านบนของช่องที่ 104.10 เมื่อวันที่ 8 มกราคม ก่อนที่จะปรับตัวกลับลงมาเล็กน้อยและชะงักอยู่ที่ 103.95 ทั้งนี้ โซน 104.00 เป็นระดับแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญมาตลอดสี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งราคามักดีดออกจากระดับดังกล่าวในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
  • คริปโตเคอเรนซี เมื่อ 12 ปีที่แล้ว วันที่ 3 มกราคม 2009 บุคคลหนึ่งหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งภายใต้ชื่อเล่นว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ ได้เริ่มเครือข่ายบิทคอยน์และทำการขุดเหรียญขึ้นมา 50 BTC ไม่กี่วันหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม ก็เกิดธุรกรรมแรกของบิทคอยน์ นายซาโตชิ นากาโมโตะส่งบิทคอยน์จำนวน 10 เหรียญ ให้กับ ฮาล ฟินนีย์ และล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2020 มีข้อมูลปรากฏบนบัญชีทวิตเตอร์ของ Whale Alert ว่า ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับกว่าสิบปี นายนากาโมโตะได้ขุดเหรียญจำนวน 1,125,150 BTC ซึ่งขณะนี้ราคาเหรียญไต่ขึ้นถึงระดับ $41,000 ทำให้มูลค่าของจำนวนเหรียญเหล่านี้สูงเกิน $45 พันล้านเหรียญ และเขาก็อาจกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกอันดับที่ 25 ได้โดยปริยาย
    จริงๆ แล้ว เราได้ประกาศข่าวที่สำคัญที่สุดไปแล้วในสัปดาห์ก่อนหน้า: ราคาบิทคอยน์ทำระดับเกิน $41,000 เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มกราคม ดังนั้นเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 ในเวลาเพียงห้าสัปดาห์ บิทคอยน์เติบโตขึ้นถึง 115%
    ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่แค่เฉพาะสำหรับนักลงทุน แต่ยังรวมถึงกลุ่มนักขุดเหรียญอีกด้วย เดือนธันวาคมที่ผ่านมาถือเป็นเดือนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงสามปีล่าสุด จากข้อมูล Block Research รายได้รวมของนักขุดเหรียญสูงถึง $692 ล้านเหรียญดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเงินเกือบ $1 ล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง
    ณ ขณะนี้ ตลาดขุดเหรียญเงินคริปโตนั้นคุมโดยจีนเป็นหลัก ซึ่งจากการประมาณการคาดว่าคิดเป็นส่วนแบ่งเกิน 50% ของแฮชเรตรอบโลก เจ้าของเหรียญ Ripple ยังเคยพูดว่าเหรียญ Bitcoin และ Ethereum นั้นจริงๆ แล้วถูกควบคุมโดยจีน
    นอกจากนี้ในเรื่องของ Ripple ช่วงหนึ่งสัปดาห์ครึ่งล่าสุดนับว่าเป็นความหวังที่ดีสำหรับเจ้าของเหรียญอัลท์คอยน์สกุลนี้ ในขณะที่เหรียญติดอันดับกำลังมีมูลค่าที่เติบโตขึ้น คู่ XRP/USD กลับอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน โดยเริ่มขยับจากราคา $0.77 ลงมาที่ $0.17 ภายในสิ้นปี 2020 ซึ่งหดตัวลงถึง 78%
    แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด หายนะครั้งใหญ่ที่สุดคือสิ่งที่ Ripple ต้องประสบในตลาดฟิวเจอร์ส์ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาเหรียญในตลาดฟิวเจอร์สรอบเดือนมีนาคมขยับลงเหลือเพียง $0.00023 บนแพล็ตฟอร์มตราสารอนุพันธ์ BitMEX โดยนักลงทุนขายเหรียญกว่า 80 ล้านเหรียญภายในเวลาหนึ่งนาที นี่คือปฏิกิริยาที่ตลาดตอบสนองต่อข่าวการดำเนินคดีของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ซึ่งมีข้อกล่าวหาว่าเหรียญสตาร์ทอัพรายนี้ขายสินทรัพย์อย่างผิดกฎหมายภายใต้ XRP เป็นเงิน $1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มมีความสงบลงมาบ้าง และราคา XRP/USD อยู่ที่ $0.31 เมื่อวันที่ 8 มกราคม และหากนักเทรดตั้งคำสั่งล่วงหน้าเพื่อซื้อ Ripple ที่ราคาต่ำสุด พวกเขาก็ได้ทำกำไรแล้วถึง 1,350% ในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์เท่านั้น
    กลับมาสู่เรื่องของบิทคอยน์ เราสังเกตเห็นว่าความผันผวนนั้นไม่สูงเหมือนกับเหรียญ Ripple แน่นอน แต่ก็ยังถือว่าน่าประทับใจมากกว่า โดยมีความผันผวนถึง 10% ต่อชั่วโมง ดัชนี Crypto Fear & Greed Index อยู่ในโซน overbought ระดับสูงมาก ที่ 95 จาก 100 แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตก็เป็นไปตามราคา BTC/USD โดยเริ่มเพิ่มมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยับถึง $1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน ดัชนีการครองตลาดของบิทคอยน์อยู่ในอัตราที่เกือบถึง 70%

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD เราได้อธิบายรายละเอียดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า นักวิเคราะห์จากธนาคารชั้นนำของโลกและหน่วยงานการเงินต่าง ๆ ประเมินราคาคู่นี้ไว้อย่างไรบ้างในปี 2021 โดยตัวเลขคาดการณ์โดยเฉลี่ย คือ 1.25000 ซึ่งตรงกับระดับสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์เมื่อสามปีที่แล้ว
    สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ ผู้เชี่ยวชาญ 60% เชื่อว่า เดือนมกราคมนี้หากไม่ใช่เดือนแห่งการกลับตัวของเทรนด์ ก็จะเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่ลงทิศใต้ของราคาคู่นี้ ซึ่งจะทำให้ราคากลับสู่ระดับ 1.2050 หรือแม้แต่ 1.1900 โดยมีระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุดในโซน 1.2100 อย่างไรก็ดี ในส่วนอินดิเคเตอร์นั้นสนับสนุนแนวโน้มดังกล่าวที่ 80% ของอินดิเคเตอร์ทั้งหมดในกรอบ H4 ในขณะที่ในกรอบ D1 อินดิเคเตอร์และออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณเป็นกลาง
    นักวิเคราะห์ 40% โหวตให้กับตลาดกระทิง โดยได้รับการสนับสนุนจากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 ซึ่งชี้ว่า ราคาหลังจากดีดกลับจากระดับ 1.2200 แล้วน่าจะกลับสู่เทรนด์ขาขึ้นต่อไป และอีกไม่นานเราจะได้เห็นราคาที่ระดับ 1.2350 และ 1.2500 ก็จะอยู่ไม่ไกลออกไป
    สำหรับเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์ที่จะถึงที่น่าสนใจ คือ สถิติจากตลาดผู้บริโภคสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันพุธที่ 13 มกราคม และในวันศุกร์ที่ 15 มกราคม นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารเฟดมีกำหนดจะแถลงการณ์ในช่วงท้ายของสัปดาห์ และตลาดจะรอฟังว่าเขาจะยืนยันคำพูดของ นายโธมัส บาร์คิน และแพทริก ฮาร์คเกอร์ เกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และปรับลดมาตรการ QE หรือไม่
  • GBP/USD โดยรวมแล้ว การคาดการณ์สำหรับอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้าสำหรับคู่นี้มีความคล้ายกับคู่ยูโร/ดอลลาร์มาก อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคบนกรอบ D1 ให้สัญญาณเป็นกลางและบางทีก็ให้สัญญาณหลายทิศทาง ส่วนผู้เชี่ยวชาญ 60% ออสซิลเลเตอร์ 70% และอินดิเคเตอร์เทรนด์ 75% บนกรอบ H4 โหวตว่าราคาคู่นี้จะขยับลงต่อไป ในส่วนนักวิเคราะห์ 40% คาดการณ์ว่าราคาจะเติบโตขึ้น รวมถึงอินดิเคเตอร์ที่เหลือบนกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟทั้งสองกรอบเวลา โดยให้ระดับแนวรับที่ 1.3525, 1.3485 และ 1.3285 ระดับแนวรับสำคัญถัดไปคือโซน 1.3185 ส่วนระดับแนวต้าน ได้แก่ 1.3620 และ 1.3725
    สำหรับเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ เราควรให้ความสนใจกับคำแถลงของ นายแอนดริว ไบเลย์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติอังกฤษ ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 11 มกราคม
  • USD/JPY เงินเยนจะมีพฤติกรรมอย่างไรนั้นโดยหลักแล้วขึ้นอยู่กับทั้งความต้องการความเสี่ยงของนักลงทุนและความเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในขณะนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (55%) มั่นใจว่า ราคาคู่นี้จะอยู่ในกรอบขาลงระยะกลาง และหลังจากราคาได้ทดสอบกรอบด้านบนที่ 104.00 จะกลับมาสู่โซนตรงกลางอีกครั้ง โดยมีความเป็นไปได้ดังกล่าวยืนยันโดยออสซิลเลเตอร์ 25% ซึ่งให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในโซน overbought ทั้งในกรอบ H4 และ D1 และมีแนวรับใกล้ที่สุด คือ 103.65 แนวรับถัดไปที่ 103.00 เป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 102.50
    ส่วนผู้เชี่ยวชาญ 355 และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 โหวตว่า ราคาคู่นี้จะสามารถตัดทะลุกรอบด้านบนดังกล่าวได้และจะขึ้นไปยังโซน 104.70-105.00 เป้าหมายถัดไปของฝั่งกระทิง คือ 105.70 และสุดท้าย ด้านนักวิเคราะห์ 10% มีท่าทีเป็นกลาง โดยชี้ว่า ราคาจะผันผวนที่บริเวณ Pivot Point ที่ 104.00

บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซีประจำวันที่ 11 - 15 มกราคม 20211

  • คริปโตเคอเรนซี ทัศนคติที่ดีของนักลงทุนเพิ่มขึ้นมาจากการขึ้นสู่อำนาจของรัฐบาล นายโจ ไบเดน ทั้งนี้ นายไมค์ โนโวกราตซ์ ผู้ก่อตั้งธนาคารเงินคริปโต Galaxy Digital เน้นย้ำในการรายงานใน CNBC ว่า ทีมงานของทรัมป์ไม่สามารถหยุดยั้งแนวโน้มการเติบโตจนทำลายสถิติของบิทคอยน์ได้ และแสดงความหวังที่หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินภายใต้รัฐบาลชุดใหม่จะมีท่าทีที่น่าไว้วางใจ “ผมหวังว่าหลังจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ (วันที่ 20 มกราคม 2021) เราจะมีหน่วยงานที่มีหัวก้าวหน้ามากกว่านี้ และผมยินดีที่จะรอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้จัดเตรียมกรอบการทำงานในการกำกับดูแลที่สนับสนุนมากกว่าต่อต้านคริปโตเคอเรนซี” กล่าวโดยโนโวกราตซ์
    สำหรับการเข้าสู่ตลาดของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ นอกเหนือไปจากข้อจำกัดในการถูกกำกับตรวจสอบแล้ว พวกเขายังมีอุปสรรคจากความผันผวนที่สูงเป็นอย่างยิ่งของบิทคอยน์ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารเพื่อการลงทุน JPMorgan เชื่อว่า ภาพลักษณ์ของการเป็นทางเลือกใหม่แทนทองคำจะทำให้บิทคอยน์ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและทำนายการเติบโตที่ $146,000 แต่สิ่งนี้จะต้องอาศัยการหันเข้าหากันระหว่างดัชนีของบิทคอยน์และทองคำ ซึ่งนี่เป็น “กระบวนการที่ใช้เวลาหลายปี”
    เมื่อพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับบิทคอยน์ในช่วงล่าสุดนี้ การคาดการณ์ของ JPMorgan อาจยังฟังดูมีความอนุรักษ์นิยมสูงมากสำหรับหลายคน ด้านบริษัทการวิเคราะห์ทางการลงทุน Pantera Capital มองว่า ตลาดอยู่ไม่ไกลจากการได้เห็นราคาขึ้นไปที่ $115,000 นายแดน มอร์เฮด ซีอีโอของ Panteral Capital Investment กล่าวในทีวีช่อง CNBC โดยเรียกปริมาณที่จำกัดของบิทคอยน์ว่าจะเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตในมูลค่าเงินคริปโตสกุลนี้ และในเวลานี้ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง PayPal และ Grayscale ได้ซื้อเหรียญ BTC เกินอัตรากว่าที่นักขุดเหรียญสามารถขุดได้
    ในขณะนี้ กองทุน Grayscale Trusts ของทั้ง Bitcoin และ Ethereum ได้สะสมสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวแล้วเป็นเงินกว่า $14,075 พันล้านเหรียญ และ $1,808 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ และตามความเห็นของนักวิเคราะห์ นายเควิน รูค กองทุนรายใหญ่นี้ยังคงซื้อบิทคอยน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งชี้ว่า Grayscale ตั้งเป้าหมายการเติบโตในระยะยาวของสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างบิทคอยน์
    นายวิลลี วู นักวิเคราะห์ชื่อดังอีกคนหนึ่งก็เห็นด้วยกับแนวโน้มดังก่ลาว เขามองว่า หลังจากบิทคอยน์ตัดผ่านกรอบที่ $24,000 ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตลาดก็ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนักลงทุนระยะยาวโดยปริยาย
    Binance หนึ่งในตลาดเงินคริปโตรายใหญ่ที่สุดก็ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน “เราเชื่อว่าราคาที่ $50,000 เป็นราคาที่สมเหตุสมผล แต่ตัวเลขนี้จะต้องสูงกว่าแน่นอน ฉันคิดว่าเราจะได้เห็นราคาที่ $75.000 - $100.000 ต่อ 1 BTC ภายในสิ้นปี 2021” กล่าวโดย แคทเธอรีน โคเลย์ ซีอีโอประจำเครือสหรัฐฯ
    และสุดท้าย คำทำนายที่กล้าหาญที่สุดสำหรับคู่ BTC/USD เป็นของ นายเฮนรี บล็อดเจ็ท ผู้ร่วมก่อตั้ง Insider และเจสซี พาวเวลล์ ซีอีโอของตลาดแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ Kraken: ทั้งคู่ตั้งเป้าไว้ที่ $1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญ อย่างไรก็ตาม คนแรกเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเพราะผู้เก็งกำไรเป็นหลัก ในขณะที่คนหลังเชื่อในแนวโน้มการเติบโตของการลงทุนของสถาบันในเงินคริปโต
    สำหรับอัลท์คอยน์อันดับ 1 มูลค่ารวมของ Ethereum ขยับเกิน $140 พันล้านเหรียญดอลลาร์ ซึ่งมีขนาดมากกว่าบริษัทยานยนต์ขนาดใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น General Motors ($59.5 พันล้านเหรียญ), BMW ($47.1 พันล้านเหรียญ) และบริษัท Ferrari ($36.2 พันล้านเหรียญ) เงินที่หลั่งไหลเข้ามาใน ETH จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในปี 2021 ตามความเห็นของ ไรอัน วัตกินส์ นักวิเคราะห์จาก Messari โดยนักลงทุนบางกลุ่มพร้อมที่จะให้ความสนใจกับ Ethereum เป็นพิเศษ และเหตุการณ์สำคัญสำหรับเหรียญนี้ คือ การเปิดตัวสัญญาฟิวเจอร์สของ Ethereum ในตลาดหลักทรัพย์ชิคาโก (Chicago Exchange - CME) โดยทั่วไป นายไมเคิล วาน เดอ พอปเพอ นักเทรดจากตลาดหุ้นอัมสเตอร์ดัมชี้ว่า การทะยานขึ้นของตลาดอัลท์คอยน์น่าจะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้

 

กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้


« การวิเคราห์ตลาดและข่าว
รับการฝึก
มือใหม่ในตลาดใช่ไหม?ใช้ส่วน เริ่มฝึกฝน เริ่มฝึกฝน
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)