นักเทรดมือใหม่หลายคนอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นยอดคงเหลือติดลบเมื่อทำการเปิดคำสั่งเทรดธุรกรรมแรก แม้ว่าราคาจะยังไม่ขยับไปไหน และจะเริ่มเข้าใจว่าโบรกเกอร์ให้บริการต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล และคุณจะต้องชำระเงินเพื่อเข้าถึงสินทรัพย์ทางการเงินและเงื่อนไขการเทรด นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่สื่อกลางระหว่างคุณและตลาดการเงินโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทพาณิชย์ที่ต้องทำกำไรให้กับผู้ก่อตั้งอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ เพื่อการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดจะต้องทั้งสามารถคำนวณค่าธรรมเนียม และเข้าหลักการของค่าธรรมเนียมเหล่านี้อีกด้วย สิ่งนี้นำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องว่าตลาดโลกทำงานอย่างไร และเปิดเผยข้อสงสัยว่าบริษัทโบรกเกอร์ต่าง ๆ รวมถึง NordFX ทำรายได้อย่างไร
ตลาดฟอเร็กซ์เป็นระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่กระจายศูนย์กลาง ซึ่งผู้เข้าร่วมในตลาดประกอบด้วย ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลก รัฐบาล และนักลงทุนภาคเอกชน ปริมาณกระแสเงินสดที่หมุนเวียนส่วนใหญ่นั้นเป็นของผู้เล่นรายใหญ่ ดังนั้น กระบวนการแลกเปลี่ยนจึงมีมาตรฐานและไม่เอื้ออำนวยต่อคนธรรมดาเสมอไป
สมมติว่าเราต้องใช้เงินสกุลพื้นฐานทั้งหมด 100,000 หน่วย เพื่อดำเนินธุรกรรมหนึ่ง (1 ล็อตเท่ากับ 100,000 USD) นักเทรดรายย่อยส่วนใหญ่ย่อมไม่มีเงินมากขนาดนั้น ดังนั้น พวกเขาจึงหันไปหาบริการของโบรกเกอร์ เพื่อให้โบรกเกอร์ช่วยเติมเต็มเงินที่ขาดเหลือเพื่อทำธุรกรรมให้สำเร็จ
โบรกเกอร์เองก็ใช้งานสื่อกลาง คือ ผู้ให้บริการสภาพคล่อง ตามกฎแล้วนี่คือวงเงินจากธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งที่ให้บริการราคาที่แม่นยำมากที่สุดสำหรับการทำธุรกรรมในทุกขณะ จำนวนผู้ให้บริการสภาพคล่องที่บริษัทโบรกเกอร์ทำงานด้วยจะบ่งบอกถึงความแม่นยำของราคา รวมถึงขนาดของค่าธรรมเนียมที่นักเทรดจะต้องชำระ โบรกเกอร์ NordFX ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย ซึ่งได้รับวงเงินจากธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ข้อกำหนดที่นักเทรดได้รับจึงเป็นเงื่อนไขที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ในตลาด
ค่าสเปรด คือ ค่าใช้จ่ายที่นักเทรดเป็นผู้ชำระให้กับโบรกเกอร์เมื่อทำการเปิดคำสั่งเทรด และสูตรการคำนวณค่าสเปรดนี้มาจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (BID) และราคาขาย (ASK) คุณสามารถดูราคาปัจจุบันได้ในเทอร์มินอลการเทรด MT4 ของคุณ หน้าต่างนี้เรียกว่า "Market Watch" นอกจากนี้ ค่าสเปรดทั่วไปและขั้นต่ำสำหรับแต่ละสินทรัพย์นั้นมีระบุไว้ในส่วนคุณสมบัติของบัญชีแต่ละประเภทบนเว็บไซต์ NordFX
ตามตรรกะทั่วไปแล้ว รายได้ของโบรกเกอร์จะมาจากบริษัทเพิ่มราคาไม่กี่จุดจากที่ได้รับจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง หลักการเทรดโดยมาตรฐานทำงานดังนี้ คุณซื้อในราคาที่ถูกกว่าและขายที่ราคาแพงกว่าเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ โบรกเกอร์ที่ซื่อสัตย์จึงอยากให้นักเทรดทำรายได้จริง ๆ จึงพยายามให้บริการเนื้อหาฝึกสอนเทรดจำนวนมหาศาล ตลอดจนโอกาสในการฝึกฝนทักาะในการเทรดบนบัญชีทดลอง บทวิเคราะห์ และคำคาดการณ์ต่างๆ รวมถึงบริการเพิ่มเติม เช่น เครื่องคิดเลขของนักเทรด และปฏิทินเศรษฐกิจ เป็นต้น
นอกเหนือไปจาก (หรือแทนที่) ค่าสเปรดแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมอีกหนึ่งประเภทบนบัญชีบางประเภท คือ เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาณการซื้อขาย ซึ่งใช้บนบัญชีที่มีการเข้าถึงผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง ซึ่งมักจะพบในบัญชีประเภท ECN และบนตลาดหุ้นในขณะที่เทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อ้างอิงอื่น ๆ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมประเภทนี้ไม่ได้ทดแทนค่าสเปรดเสียทีเดีว แต่หากมีการเข้าถึงผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง ค่าสเปรดในที่นี้จะมีจำนวนต่ำมาก
ค่าสเปรดมีสองประเภททั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชีที่เลือกใช้งาน ค่าสเปรดประกอบด้ว ค่าสเปรดคงที่ (fixed) และค่าสเปรดลอยตัว (floating) ค่าสเปรดแบบคงที่แปลว่าค่าสเปรดจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดคำสั่งเทรด หากในส่วนคุณสมบัติของบัญชีระบุค่าธรรมเนียมไว้ที่ 2 จุด ค่าธรรมเนียมนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่ากิจกรรมในตลาดจะเป็นอย่างไร โบรกเกอร์จะรับความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ดังนั้น ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว ค่าธรรมเนียมคงที่มักจะสูงกว่าค่าธรรมเนียมลอยตัว
ค่าธรรมเนียมลอยตัวแตกต่างจากค่าธรรมเนียมแบบคงที่ เพราะมีความใกล้ชิดกับสภาพเงื่อนไขตลาดมากที่สุด และค่าธรรมเนียมแบบลอยตัวนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตัวเลขนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น กิจกรรมในตลาด ความเต็มอิ่มของผู้ร่วมตลาด และปริมาณการซื้อขาย ณ ปัจจุบัน หากอุปสงค์ตรงกับอุปทาน ค่าสเปรดมักจะเป็นศูนย์ ดังนั้น คุณอาจสังเกตเห็นว่าค่าสเปรดจะกว้างขึ้นในช่วงกลางคืน เช่น ในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งไม่มีการตลาดใดเปิดทำการซื้อขายมากนัก (เรียกว่าตลาด “เบาบาง”) ค่าสเปรดยังเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากผู้ให้บริการและโบรกเกอร์หลายแห่งพยายามจะรับประกันความเสี่ยงมากที่สุดในกรณีที่ราคาผันผวนอย่างรุนแรง เป็นต้น
การจะเลือกประเภทบัญชีนั้นล้วนขึ้นอยู่กับนักเทรดเอง แต่โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดมือใหม่มักจะชื่นชอบค่าสเปรดแบบคงที่หรือตายตัว (บัญชี Fix ใน NordFX) ส่วนค่าสเปรดแบบลอยตัวนั้นเหมาะสำหรับนักเทรดผู้มีประสบการณ์ (บัญชีประเภท Pro และ Zero ที่ NordFX) ค่าธรรมเนียมประเภทนี้มีความน่าดึงดูดมากกว่าเพราะเทรดได้ถูกกว่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชอบฝึกเทรดสั้น (scalping) เดย์เทรด และเปิดคำสั่งเทรดจำนวนมาก อย่างไรก็ดี การทำงานกับค่าสเปรดลอยตัวนั้นยากกว่าในทางปฏิบัติ เพราะระดับ SL และ TP จะต้องตั้งค่าตามที่กำหนดในคุณสมบัติของบัญชี
สิ่งที่น่าประหลาดใจถัดไปซึ่งนักเทรดมือใหม่จะต้องเจอก็คิอ ค่าสวอป ค่าสวอปคือค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนธุรกรรมข้ามไปอีกวันหนึ่ง หลายคนเข้าใจอย่างผิด ๆ ว่านี่เป็นแค่อีกหนึ่งแหล่งที่มาของรายได้สำหรับบริษัทโบรกเกอร์ แต่จริง ๆ แล้ว ค่าธรรมเนียมไม่ได้แค่ถูกหักจากบัญชีของนักเทรดเท่านั้น แต่ในทางกลับกันนักเทรดยังได้รับชำระค่าสวอปอีกด้วย กล่าวคือ คุณไม่ใช่แค่เสียค่าสวอปเท่านั้น แต่คุณยังทำเงินจากค่าสวอปได้อีกด้วย นักเทรดมืออาชีพเรียกรายได้รูปแบบนี้ว่า Carry trade ซึ่งสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรดที่นักเทรดใช้งาน
ขนาดของค่าสวอปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ประกอบด้วย ขนาดของค่าสวอปจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง การคาดการณ์ และอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบันสำหรับคู่สกุลเงินใด ๆ โดยเฉพาะ ฯลฯ ปัจจัยเบื้องหลังในที่นี้คือค่าส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงินนั้น ๆ ค่าสวอปที่เป็นบวกจะเกิดขึ้นเมื่อคุณซื้อสินทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงด้วยสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในทางกลับกัน ค่าสวอปติดลบจะเกิดขึ้นเมื่อคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วยค่าเงินที่มีอัตราการกู้ยืมที่สูง เช่น หากคุณเปิดตำนแหน่งซื้อกับคู่ USD/ZAR ค่าธรรมเนียมที่จะถูกหักจากบัญชีนักเทรดจะอยู่ที่ 37 จุด และสำหรับตำแหน่งขายนักเทรดจะได้รับเงิน 7 จุด
ทั้งนี้ โดยธรรมชาติแล้ว เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลง ธนาคารกลางจะเปลี่ยนแปลงขนาดของค่าสวอปเช่นเดียวกัน รายละเอียดค่าสวอปในปัจจุบันสามารถดูได้บนเว็บไซต์ NordFX ในส่วนคุณสมบัติของบัญชีซื้อขาย
สำหรับนักเทรดที่เดย์เทรด ขนาดของค่าสวอปนั้นไม่มีความสำคัญอะไร แต่หากคุณถือธุรกรรมข้ามหลายวัน สัปดาห์ หรือแม้แต่หลายเดือน ค่าสวอปจะกลายเป็นปัจจัยทีี่ส่งผลต่อผลกำไรและการขาดทุนในแต่ละธุรกรรมเป็นอย่างมาก
เนื่องด้วยความเชื่อทางศาสนา บุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามจะมีกฎห้ามไม่ให้ให้และรับดอกเบี้ย ดังนั้น การเทรดแบบคลาสสิกโดยการโอนธุรกรรมข้ามวันจึงเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ในที่นี้จึงมีการสร้างบัญชีประเภทพิเศษขึ้นมาสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ เรียกว่า Swap Free ซึ่งจะยกเว้นการชำระเงินหรือสะสมค่าสวอป และนักเทรดจะจ่ายค่าธรรมเนียมคงที่แทน ซึ่งคุณสามารถใช้บริการนี้ได้โดยส่งคำขอไปยังบริการซัพพอร์ตของ NordFX
