เมษายน 18, 2023

ประวัติศาสตร์โลกการเงินเต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมาย และมีคนบางกลุ่มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความล้มเหลวทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือ พอล ทูดอร์ โจนส์ นักเทรดชาวอเมริกัน นักการเงิน และผู้ก่อตั้งหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Tudor Investment Corporation

จุดเริ่มต้นของเส้นทางอันยาวไกล

พอล ทูดอร์ โจนส์ (PTJ) เกิดวันที่ 28 กันยายน 1954 ที่เมืองเมมฟีส รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เขาเรียนจบโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่นั่น และหลังจากนั้นเขาก็ได้วุฒิปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Virginia เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในอุตสาหกรรมการเงินในปี 1976 เมื่อเขาเข้าร่วม E.F. Hutton ในนิวยอร์ก ซึ่งเขาทำงานแรกเป็นเสมียน แต่หลังจากที่เขาแสดงความสามารถก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนักวิเคราะห์ตลาดหุ้น และก็กลายเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริษัทอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาหลายปีที่ E.F. Hutton ทู โจนส์ เขาได้รับประสบการณ์ที่มากคุณค่าจากการวิเคราะห์รายงานการเงินของบริษัทและการคัดเลือกหุ้น ก่อนที่จะย้ายไปทำงานต่อที่ Commodities Corporation (CC) ซึ่งเทรดในตลาดฟิวเจอร์ส

ในปี 1980 ขณะอายุ 26 ปี เขาได้ตัดสินใจเริ่มก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของตนเองและก่อตั้งบริษัท Tudor Investment Corporation นักการเงินวัยหนุ่มเริ่มต้นจากเงินลงทุนก้อนเล็ก  โดยลงทุนเงินทั้งหมดที่เขาได้รับในขณะนั้น จากนั้นก็เชิญชวนเพื่อน ๆ และคนรู้จัก และระดมเงินมาจากลูกค้า ด้วยพรสวรรค์ของเขา เขาจึงสามารถจัดการกับความเสี่ยงและเพิ่มพูนเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน PTJ ก็เรียนต่อที่ Harvard Business School แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เข้าใจว่าสิ่งที่พวกเขาสอนกันที่มหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่ความรู้ที่เขาอยากได้

ทู โจนส์ ล้มเลิกความคิดในการเรียนต่อและทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาไปกับการฝึกฝนการเทรด ซึ่งเขาได้รับความช่วยเหลือจากลุงของเขาที่ทำงานในตลาดหุ้นมาตลอดทั้งชีวิต

คุณเทรดอย่างไรให้ได้กำไร? กฎ 10 ข้อของพอล ทูดอร์ โจนส์ ราชาแห่งวอลล์สตรีท1

5 ปีแรกของ Tudor Investment Corporation ทำกำไรต่อปีได้มากกว่า 100% ซึ่ง พอล ทูดอร์ โจนส์ ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ครั้งแรกในปี 1985 ขณะที่เขาทำกำไรได้กว่า $20 ล้านดอลลาร์จากการเทรดธัญพืช ในปีถัดมา 1986 เขาทำกำไรได้ 92.2% ให้กับกองทุน และสำหรับเขาเอง PTJ ปีนั้นถือว่าเป็นปีที่ทำผลงานได้ย่ำแย่

นักเทรดกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงต่อสาธารณะหลังวันที่ 19 ตุลาคม 1987 ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นวันจันทร์ทมิฬ (Black Monday) เกิดเหตุการณ์ตลาดหุ้นตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ดัชนีหุ้นดิ่งลงในทุกทวีปบนโลก ด้วยการที่เขาคาดการณ์สถานการณ์นี้ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ทูดอร์ โจนส์ สามารถฉวยโอกาสจากจังหวะดังกล่าวได้สำเร็จ และทำเงินได้กว่า $100 ล้านดอลลาร์และเพิ่มเงินทุนของตนเองได้กว่าสามเท่า และจากนั้นหนึ่งปีถัดมา เงินทุกหนึ่งดอลลาร์ที่ลงทุนกับ Tudor Investment นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนถึง 17 เท่า อีกปีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จของนักการเงินรายนี้คือ 1990 เมื่อ ทู โจนส์ ทำกำไรก้อนใหญ่ได้จากจังหวะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นตกต่ำ

ปัจจัยความสำเร็จ

หนึ่งในกุญแจความสำเร็จของทู โจนส์ คือ ความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด ซึ่งเขาทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดและทำการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในการซื้อและขายสินทรัพย์ แนวทางของเขาคือทั้งการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาด

PTJ ยังมีชื่อเสียงในการคำนวณความเสี่ยงและการใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการลงทุนของเขาอีกด้วย เขาใช้หลากหลายวิธีในการจำกัดการขาดทุน ได้แก่ การใช้ stop loss การกระจายความเสี่ยงในพอร์ต และการกำหนดขนาดคำสั่งสูงสุดในแต่ละการเทรด

อีกหนึ่งปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จของทู โจนส์ คือความสามารถในการปรับตัวกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เขาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในหลักเกณฑ์ทางเทคนิคของตลาด ซึ่งช่วยให้เขาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรด และช่วยให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของเขาทำกำไรได้ดี

กลยุทธ์การเทรด

กลยุทธ์ที่ทู โจนส์ใช้งานอาจเปลี่ยนไปโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตลาด บางกลยุทธ์ก็ใช้ทั้งการวิเคราะห์เชิงเทคนิคหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บ้างก็อาศัยการวิเคราะห์สถิติและโมเดลคณิตศาสตร์ และบางกลยุทธ์ก็ใช้ทุกอย่างผสมผสานกัน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดโดย ทู โจนส์ คือ “การเทรดระยะสั้น” ซึ่งเป็นการซื้อและขายในช่วงเวลาอันสั้น ไม่เกินสองสามวัน กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์เชิงเทคนิค และให้กำไรได้ดีเพราะสภาพคล่องสูงและปริมาณการซื้อขายที่หมุนเวียนรวดเร็ว

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ ทู โจนส์ ใช้คือกลยุทธ์ “การเทรดแบบแมคโคร” โดยอาศัยการวิเคราะห์ตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค เช่น ระดับเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อกำหนดทิศทางตลาด กลยุทธ์นี้อ้างอิงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและช่วยให้ ทู โจนส์ ทำกำไรได้จากแนวโน้มตลาดในระยะยาว

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ: มีสารคดีเรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของเขาในปี 1987 ซึ่งเขาได้แบ่งปันเคล็ดลับการเทรดของเขา แต่ตั้งแต่ปี 1990 เขาเริ่มเรียกร้องให้หยุดการเผยแพร่สารคดีเรื่องนี้ และแม้กระทั่งกว้านซื้อสำเนาเทปของมัน ซึ่งมีคำอธิบายเหตุเบื้องหลังที่แตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือ แนวทางการเทรดของเขานั้นหมิ่นเหม่ไปในทางปั่นป่วนตลาดและเขาตัดสินใจไม่อยากเปิดเผยมัน

อีกข้อเท็จจริงหนึ่ง: ในปี 1994 Paul ทู โจนส์ จ่ายค่าปรับ $800,000 (มากที่สุดเป็นอันดับสองในขณะนั้น) ให้กับคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในข้อหาละเมิดกฎหมายของกลต. ในขณะเดียวกัน นักการเงินก็ไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

กฎ 10 ข้อของ PTJ

1. อันดับแรกสุดคือความปลอดภัยของเงิน และจากนั้นจึงเป็นกำไร

2. ยับยั้งอารมณ์

3. จงหลงใหลในตลาด ไม่ใช่การเทรด

4. ปลูกฝังวินัยเรื่องความเสี่ยง

5. อย่าใส่ใจการขาดทุน

6. มองหา pivot points

7.ประสบการณ์และการฝึกฝนนั้นสำคัญมากกว่าทฤษฎี

8. หานักลงทุนที่มีชื่อเสียง ดูเขา และตั้งข้อสรุป

9. เรียนรู้ที่จะ “อ่าน” ตลาด

10. อย่ายึดถือคำสั่งที่อ่อนแอ

ผลลัพธ์ $17 พันล้านดอลลาร์

ความสำเร็จของทู โจนส์ ในการเทรดในตลาดการเงินช่วยให้เขาสามารถก่อตั้งหนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ดึงดูดเงินลงทุนได้มหาศาล และทำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ให้กับนักลงทุนของเขา อย่างไรก็ดี PTJ ก็ไม่ได้รอดพ้นจากอุปสรรคและปัญหาในเส้นทางอาชีพของเขา เขาเจอปัญหาหนักในช่วงวิกฤติการเงินปี 2008 ซึ่งกองทุนของเขาขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก แต่เขาก็สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ยากลำบากและฟื้นตัวกลับขึ้นมาใหม่ และทำกำไรให้กับนักลงทุนของเขาได้

ทุกวันนี้ Tudor Investment Corporation คือ หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีนักลงทุนมาจาก 35 ประเทศ ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่ากว่า $12 พันล้านดอลลาร์ (ณ ปี 2022) ในขณะเดียวกัน มูลค่าทรัพย์ของนักการเงินรายนี้คิดเป็นเงินอีกกว่า $5 พันล้านดอลลาร์ พอล ทู โจนส์ ยังคงเป็นนักเทรดที่เป็นที่เคารพนับถือและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกการเงิน และความสำเร็จของเขานั้นเขียนบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเงินโลกเรียบร้อยแล้ว


« บทความมีประโยชน์
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)