ปี 2008 เป็นปีที่ตลาดคริปโตกำเนิดขึ้น ในเดือนสิงหาคมปีนั้นมีการจดทะเบียนโดเมนเว็บ bitcoin.org และมีการเผยแพร่คำอธิบาย (เอกสารพิมพ์ขาว) ของสกุลเงินคริปโต ผู้เขียนเอกสารฉบับนี้ตั้งหัวข้อว่า “Bitcoin: ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์ (peer-to-peer)” คือ Satoshi Nakamoto ในปีเดียวกันนั้น ปี 2008 ยังมีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญเกิดขึ้นคือ บริษัทโบรกเกอร์ NordFX ปรากฏขึ้นในตลาดบริการการเงิน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา NordFX ไม่ได้แค่ก่อตั้งบริษัทอย่างแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหนึ่งในผู้นำในแวดวงการเทรดออนไลน์อีกด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าได้เปิดบัญชีกว่า 1,800,000 บัญชีจากเกือบ 190 ประเทศทั่วโลก NordFX ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าของรางวัลและตำแหน่งความเป็นมืออาชีพกว่า 70 รางวัล โดย 9 รางวัลเน้นย้ำถึงความสำเร็จในอุตสาหกรรมคริปโต บริษัทยังได้รับตำแหน่ง เช่น “โบรกเกอร์คริปโตที่ดีที่สุด” “โบรกเกอร์คริปโตที่ดีที่สุดแห่งเอเชีย” “โบรกเกอร์คริปโตเคอเรนซีที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด” และ “แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ดีที่สุด” จาก IAFT, Forex Ratings, Global Brands, Fxdailyinfo, Academy Masterforex-V, International Business Magazine และอีกมากมาย
แนวโน้มในอนาคตของตลาดคริปโตโดยรวมกลายเป็นคำถามอันดับหนึ่งในชุมชนดิจิทัลทุกแห่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะยังคงมีอยู่และพัฒนาต่อไปอย่างแน่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงเรื่องมูลค่าของเหรียญแต่ละชนิดนั้น ความเห็นก็แตกต่างกันออกไป
ในสถานการณ์เช่นนี้ มีสองทางให้เลือกเดินคือ ทำหน้าที่เป็นนักลงทุนและรอให้เหรียญของคุณขยับขึ้น หรือเทรดได้ทุกขณะ ทำกำไรได้จากทั้งการซื้อและขาย โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการเทรดนี้อาจเป็นการทำกำไรในระยะสั้น ในเวลาไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมง รวมถึงการเทรดระยะกลางและระยะยาว ที่สำคัญก็คือที่ NordFX คุณจะสามารถขายสกุลเงินคริปโตได้โดยไม่จำเป็นต้องครอบครองเหรียญ ไม่จำเป็นต้องซื้อ Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อรอขายแต่อย่างใด เพียงแค่กดที่ปุ่ม “ขาย” และหากราคาเหรียญลดลง คุณก็จะได้รับกำไรตามที่กำหนดทันที
การเทรดเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และ 365 วันต่อปี โดยไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ การฝากเงินสามารถทำได้ด้วย USD, BTC และ ETH ในส่วนการดำเนินธุรกรรม NordFX นำเสนอแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกคือ MetaTrader 4 ซึ่งมีระบบอินเทอร์เฟสที่ชาญฉลาดและใช้งานได้สะดวกสบาย มาพร้อมกับสารพัดเครื่องมือและอินดิเคเตอร์เพื่อการวิเคราะห์กราฟและการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ส่วนบรรดาแฟน ๆ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสามารถสรุปข้อมูลที่จำเป็นจากข่าวสารและบทวิเคราะห์ ซึ่งมีการเผยแพร่อย่างเป็นประจำในเว็บไซต์ของโบรกเกอร์และตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ
ค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วในการดำเนินคำสั่งเพียงแค่ 0.5 วินาทีจะช่วยให้นักเทรดทำกำไรได้จากความผันผวนของราคาแม้ในช่วงเวลาสั้นมากที่สุด สุดท้ายนี้ ปัจจัยที่สำคัญคือ โอกาสในการเทรดด้วยมาร์จิน เช่น หากต้องการเปิดคำสั่งเทรด 1 Bitcoin คุณจะต้องใช้เงินแค่ $150 เท่านั้น หรือ $15 สำหรับธุรกรรมกับ 1 Ethereum และ $0.02 สำหรับการเทรด 1 Ripple1 เป็นต้น หมายความว่านักเทรดสามารถเทรดสกุลเงินคริปโตในปริมาณที่สูงกว่าเงินทุนของตนเองหลายสิบหรือหลายร้อยเท่า ผลกำไรที่อาจได้รับจึงเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก (แต่ความเสี่ยงในการเทรดก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการจัดการเงิน)
หลากหลายคู่สกุลเงินคริปโตที่ NordFX ให้บริการมอบโอกาสที่มีความได้เปรียบมากที่สุดให้กับนักเทรด ในคู่เหล่านี้ ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง โดยมีสกุลเงินคริปโตที่เป็นสกุลเงินฐานดังต่อไปนี้:
– BTC (Bitcoin): นี่คือสกุลเงินคริปโตแรกและเป็นที่รู้จักมากที่สุด กำเนิดขึ้นในช่วงปี 2008-2009 โดยบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อรับประกันความปลอดภัยและตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม
– BNB (Binance Coin): Binance Coin คือสกุลเงินคริปโตที่ออกโดยแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต Binance เหรียญนี้ใช้ในระบบนิเวศของ Binance เพื่อชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรม เข้าร่วมในลอตเตอรี และจัดการการชำระเงินอื่น ๆ ในแพลตฟอร์ม
– DOGE (Dogecoin): Dogecoin สร้างขึ้นในปี 2013 และเริ่มต้นจากการเป็นสกุลเงินคริปโตที่ขบขัน แต่จากนั้นก็ได้รับความนิยมในแวดวงคริปโต Dogecoin มาจากรูป Meme สุนัขพันธุ์ชิบะ อินุ เหรียญนี้มักใช้งานในธุรกรรมเล็กและการบริจาคเงินออนไลน์
– DOT (Polkadot): Polkadot เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างและเชื่อมต่อบล็อกเชนหลายบล็อกเชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์และสินทรัพย์ดิจิทัล DOT คือเหรียญที่ใช้งานภายในระบบนิเวศ Polkadot มีฟังก์ชันหลายอย่าง รวมถึงการลงคะแนนเสียงในธรรมาภิบาลของเครือข่ายและการรับประกันความปลอดภัยของบล็อกเชน
– ETH (Ethereum): Ethereum คือแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ และการดำเนินสมาร์ทคอนแทร็ค ETH คือสกุลเงินคริปโตหลักบนแพลตฟอร์ม Ethereum และมักใช้ในการจ่ายค่า gas (ค่าธรรมเนียม) เมื่อดำเนินธุรกรรมและใช้งานสมาร์ทคอนแทร็ค
– ETC (Ethereum Classic): Ethereum Classic คือสกุลเงินคริปโตที่แยกตัวออกมาจากบล็อกเชน Ethereum ดั้งเดิม ETC ปรากฏขึ้นจากการแยกตัวหลังจากเหตุการณ์บล็อกเชน Ethereum ถูกแฮ็คเมื่อปี 2016 Ethereum Classic ยังคงซึ่งหลักการเรื่องการเปลี่ยนแปลงไม่ได้และการไม่ละเมิดบล็อกเชน โดยปฏิเสธเรื่องการเพิกถอนธุรกรรม ETC ใช้งานเป็นสกุลเงินดิจิทัลและผู้ใช้งานสามารถดำเนินการกับสมาร์ทคอนแทร็ค และพัฒนาแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ได้
– FIL (Filecoin): Filecoin คือ แพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่สร้างขึ้นในบล็อกเชน ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานเช่าพื้นที่สำรองบนคอมพิวเตอร์ของตนเองเพื่อจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานท่านอื่น โดยให้ผลตอบแทนจากการให้เช่าพื้นที่นี้ FIL ใช้งานเป็นเหรียญบนแพลตฟอร์ม Filecoin และใช้จ่ายค่าจัดเก็บข้อมูลและบริการส่งข้อมูล
– LINK (Chainlink): Chainlink คือ แพลตฟอร์มจัดการฐานข้อมูลที่เชื่อมต่อบล็อกเชนกับข้อมูลตามความจริงและแหล่งข้อมูลภายนอก แพลตฟอร์มนี้ช่วยรับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่สกัดมาได้ และให้บริการสมาร์ทคอนแทร็คเพื่อเข้าถึงข้อมูลนอกเชน LINK คือเหรียญที่ใช้ในระบบนิเวศ Chainlink และมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและกระจายศูนย์ให้กับเครือข่าย เหรียญ LINK ยังให้เป็นผลตอบแทนสำหรับผู้ใช้งานที่ให้ข้อมูลลงในระบบฐานข้อมูล
– LTC (Litecoin): Litecoin คือคริปโตเคอเรนซีที่สร้างขึ้นมาในลักษณะที่คล้ายกับบทบาทของ “เงิน” ต่อ “ทองคำ” แต่เป็นในบริบทของ Bitcoin โดยอ้างอิงเทคโนโลยีบล็อกเชนเดียวกันกับ Bitcoin แต่มีความแตกต่างเชิงเทคนิคเล็กน้อย Litecoin ให้การยืนยันธุรกรรมที่รวดเร็วกว่า และมีอัลกอริธึมขุดเหรียญที่มีประสิทธิภาพมากกว่า LTC ใช้ในการดำเนินการชำระเงินและโอน รวมถึงจัดเก็บมูลค่า
– MATIC (Polygon): Polygon (เดิมมีชื่อว่า Matic) คือแพลตฟอร์มยืดหยุ่นเพื่อการพัฒนาและใช้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์บนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความยืดหยุ่นและค่าธรรมเนียมที่สูง โดยนำเสนอธุรกรรมที่รวดเร็วและมีราคาถูกกว่า MATIC คือเหรียญที่ใช้ในแพลตฟอร์ม Polygon และทำหน้าที่หลายอย่าง รวมถึงการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมธุรกรรม การวางเงินค้ำประกัน และการลงคะแนนเสียง
– SOL (Solana): Solana คือ แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งให้บริการธุรกรรมที่รวดเร็วและมีความยืดหยุ่น แลตฟอร์มนี้ใช้อัลกอริธึมที่เป็นนวัตกรรมคือ Proof of History (PoH) ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูง และมีค่าธรรมเนียมต่ำ SOL คือเหรียญที่ใช้ในระบบนิเวศของ Solana และทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น การจ่ายเงินค่าธุรกรรม การวางเงินค้ำประกัน และการลงคะแนนเสียงในการดูแลจัดการเครือข่าย
– UNI (Uniswap): Uniswap คือ ตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ที่อ้างอิงโปรโตคอล Uniswap โดยทำงานบนบล็อกเชนของ Ethereum แพลตฟอร์มนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเหรียญ Ethereum และสร้างสภาพคล่องได้โดยการวางเงินอยู่ในเงินกองกลาง UNI คือเหรียญที่ใช้บนแพลตฟอร์ม Uniswap ซึ่งเหรียญนี้ออกให้ในฐานะเครื่องมือในการบริหารจัดการแพลตฟอร์ม และมีหน้าที่หลายอย่าง ผู้ถือเหรียญ UNI สามารถลงคะแนนเสียงต่อข้อเสนอ และการเปลี่ยนแปลงของโปรโตคอล สามารถรับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมที่ได้รับจากแพลตฟอร์ม และเข้าร่วมในการแจกเหรียญใหม่
– XRP (Ripple): XRP คือ สกุลเงินดิจิทัลและคริปโตเคอเรนซีที่พัฒนาขึ้นโดย Ripple มีการใช้งานในระบบ RippleNet ซึ่งนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินที่รวดเร็วและมีราคาไม่แพงให้กับสถาบันการเงิน XRP มุ่งหวังที่จะให้การโอนเงินรอบโลกง่ายขึ้น และให้สภาพคล่องในการชำระเงินสกุลเงินต่าง ๆ เหรียญ XRP สามารถนำไปใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ripple และกระตุ้นกิจกรรมในระบบนิเวศ
รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการเทรดสกุลเงินคริปโตแต่ละชนิดนี้สามารถดูได้ในส่วนบัญชีซื้อขายบนเว็บไซต์ทางการของ NordFX
