พฤศจิกายน 1, 2023

การเทรดในตลาดการเงินไม่ใช่แค่การวิเคราะห์กราฟและปฏิบัติตามกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการจัดการกับตนเองด้านจิตวิทยาด้วย ในบทความนี้ เราจะมาค้นพบความกลัวหลัก ๆ ที่นักเทรดต้องเผชิญและวิธีจัดการกับมัน มาหาคำตอบว่าคุณพร้อมที่จะเป็นนักเทรดหรือไม่ และแบ่งปันคำแนะนำจากบรรดากูรูและอินฟลูเอนเซอร์ในโลกการเงิน

ความกลัวหลัก ๆ ของนักเทรดและวิธีจัดการกับความกลัว

นักเทรดกลัวอะไรมากที่สุด? นักจิตวิทยาได้ให้ข้อสรุปความกลัว 4 ประเภทหลัก ความกลัวที่เผชิญกันบ่อยมากที่สุดน่าจะเป็นความกลัวที่จะขาดทุน ตามมาด้วยความกลัวที่จะพลาดโอกาส หรือที่เรียกว่าความกลัวว่าจะตกรถแล้วพลาดธุรกรรมที่ได้กำไรใด ๆ อันดับที่สามเป็นความกลัวต่อความผิดพลาด หมายถึงการตีความข้อมูลแบบผิด ๆ หรือทำการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง และสุดท้ายคือความกลัวที่จะถูกตัดสินหรือเข้าใจผิด ๆ โดยนักเทรดหรือนักลงทุนด้วยกัน เราเรียกความกลัวประเภทนี้ว่าเป็นความกลัวการถูกวิจารณ์

การจัดการกับความกลัวและการเตรียมความพร้อมทางจิตวิทยาในการเทรด1

เราจะสามารถเอาชนะความกลัวเหล่านี้ได้อย่างไร? แน่นอนว่าการศึกษาและการฝึกฝนอย่างเป็นมืออาชีพมีบทบาทที่สำคัญ ยิ่งคุณเข้าใจเรื่องนี้มากเท่าไหร่ คุณจะยิ่งมีความกลัวน้อยลง เช่น Warren Buffett แนะนำให้ลงทุนเฉพาะในสิ่งที่คุณเข้าใจและอย่าติดอยู่กับความหวาดวิตก คำแนะนำควรให้ความสนใจอย่างแน่นอน เพราะบัฟเฟ็ตต์เป็นหนึ่งในนักลงทุนชั้นนำและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าสุทธิสูงกว่า $100 พันล้านดอลลาร์ตามรายงานของ Forbes ความสำคัญของการศึกษาและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่ Timothy Sykes เหนึ่งในนักเทรดอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐฯ เน้นย้ำ ผู้ที่สามารถเปลี่ยนเงินจาก $12,000 เป็น $2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้สำเร็จ George Soros นักเทรดและนักลงทุนชื่อดังระดับโลกแนะนำให้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิดและปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อพูดถึงความกลัวต่อความผิดพลาดและการถูกวิจารณ์ เศรษฐีพันล้านรายนี้กล่าวว่า “ตลาดการเงิน ไม่ว่าเราจะพยายามที่จะพยากรณ์มันมากแค่ไหน มันเต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจทั้งนั้น สำหรับบางคนก็คาดเดาที่ผิดอาจเป็นเรื่องน่าละอาย แต่สำหรับผม การยอมรับข้อผิดพลาดของตนเองเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ” ในส่วนนี้ เราอาจอ้างถึงอีกคำกล่าวหนึ่งของนายโซรอส “มันไม่ใช่ว่าคุณถูกหรือผิดที่เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ว่าคุณจะทำเงินได้เท่าไหร่เวลาที่คุณถูก และคุณขาดทุนเท่าไหร่เมื่อคุณผิดที่สำคัญมากกว่า"

และแน่นอนว่าเมื่อเราพูดถึงวิธีการลดระดับความเครียดและเพิ่มโอกาสความสำเร็จ กูรูตลาดการเงินแทบทุกคนแนะนำให้ยึดตามกลยุทธ์ที่พัฒนาและทดสอบมาแล้วก่อนหน้าอย่างเคร่งครัด เพื่อจำกัดการตัดสินใจด้วยอารมณ์ และไม่ลืมเรื่องการจัดการเงิน.

การประเมินความพร้อมด้านจิตวิทยาในการเทรด

มีวิธีไหนที่จะช่วยบอกว่าเรามีความพร้อมทางด้านจิตวิทยามากแค่ไหนที่จะเป็นนักเทรดหรือไม่? มีอย่างแน่นอน เราจะมาให้ข้อสรุปและเจาะลึกว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไรและทำงานอย่างไร ดังนั้นเพื่อเป็นการประเมินความพร้อมในด้านจิตวิทยาในการเทรด เราจะใช้วิธีการดังนี้:

การสัมภาษณ์และสำรวจ การสัมภาษณ์แบบส่วนตัวและการรับคำปรึกษาจากนักเทรดมืออาชีพหรือนักจิตวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดการเงิน รวมถึงการตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับทัศนคติของคุณต่อเงิน ความเสี่ยง และการตัดสินใจอาจมีประโยชน์ในการประเมินความพร้อมทางด้านจิตวิทยาในการเทรด ผู้เชี่ยวชาญสามารถบอกจุดแข็งและจุดอ่อนในเรื่องจิตวิทยาของคุณได้

ทดสอบการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การเข้าทดสอบการวัดทางจิตวิทยาสามารถช่วยประเมินความโน้มเอียงด้านความเสี่ยงของคุณ แบบทดสอบเหล่านี้ช่วยวัดปฏิกิริยาตอบสนองต่อการขาดทุนและกำไรที่อาจเกิดขึ้น เพื่อทำความเข้าใจว่าคุณรู้สึกสะดวกสบายกับการตัดสินใจสุดท้ายมากน้อยแค่ไหน

บัญชีทดลอง การฝึกฝนการเทรดบนบัญชีทดลองช่วยให้คุณพัฒนาความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ และทำการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลโดยปราศจากความเสี่ยงทางการเงินจริง ๆ

ไดอารี่นักเทรด การจดไดอารี่ที่คุณบันทึกอารมณ์และปฏิกิริยาตอบสนองของตนเองต่อสถานการณ์การเทรดที่หลากหลาย สามารถช่วยในการวิเคราะห์สภาพจิตวิทยาของคุณ เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะสามารถสังเกตรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และทำการปรับปรุงตนเองตามที่จำเป็นได้

ทดสอบความเครียด ในบางตัวอย่าง แบบทดสอบความเครียดเฉพาะทางจัดทำขึ้นมาเพื่อจำลองสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วในตลาด การทดสอบดังกล่าวช่วยประเมินว่าคุณจะตอบสนองอย่างไรต่อสถานการณ์ที่มีความเครียดสูง

ทดสอบการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ การทดสอบการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นขั้นตอนที่มุ่งประเมินความโน้มเอียงด้านความเสี่ยงของคุณ โดยเฉพาะในบริบทของการตัดสินใจด้านการเงิน เครื่องมือที่มีคุณค่านี้มีประโยชน์อย่างมากในช่วงเริ่มต้นของอาชีพนักเทรด โดยทั่วไป การทดสอบดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้:

– การเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบ ก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้น คุณมักจะได้รับคำแนะนำและคำอธิบายเกี่ยวกับความคาดหวังจากคุณ บางครั้ง อาจมีการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประสบการณ์ทางการเงินและความเข้าใจเรื่องความเสี่ยง

– คำถามและสถานการณ์ต่าง ๆ แบบทดสอบนี้ประกอบด้วยคำถามหลายชุด หรือสถานการณ์สมมติที่แสดงสถานการณ์ทางการเงินที่หลากหลาย และให้คำตอบแบบตัวเลือกให้เลือก ตัวอย่างคำถามในการทดสอบ เช่น คุณจะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเงินอย่างไร? คุณจะทำอย่างไร หากคุณถูกรางวัลลอตเตอรีได้รับเงินจำนวนมหาศาล? คุณยินดีที่จะนำเงินออมไปเสี่ยงจำนวนเท่าไร? คุณทำการตัดสินใจตามสัญชาตญาณโดยการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือการรับฟังคำแนะนำของผู้อื่น?

– การประเมินปฏิกิริยาตอบสนอง การตอบสนองของคุณต่อแต่ละคำถามหรือสถานการณ์จะได้รับการวิเคราะห์เพื่อหาความโน้มเอียงด้านความเสี่ยงของคุณ คำตอบจะถูกให้คะแนนตามระดับ และผลลัพธ์สุดท้ายจะสรุปออกมาเพื่อเป็นคะแนนการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยรวม

– ผลการวิเคราะห์และเสียงตอบรับ หลังจากทำแบบทดสอบสำเร็จแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะวิเคราะห์ผลลัพธ์ พวกเขาอาจตีความคำตอบของคุณและให้คำแนะนำเรื่องการบริหารความเสี่ยง และขั้นตอนถัดไปในการพัฒนาตนเองในฐานะนักเทรด

– การทดสอบซ้ำ ในบางกรณีอาจแนะนำให้กลับมาทำแบบทดสอบซ้ำเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นในชีวิตหรือสถานการณ์การเงินของคุณ

การทดสอบการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอาจดำเนินการในหลายรูปแบบและในสถานที่ต่าง ๆ โดยขึ้นอยู่กับความต้องการและทรัพยากรของคุณ แบบทดสอบมีทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่ายซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินความโน้มเอียงด้านความเสี่ยง ซึ่งสามารถทำได้ทางออนไลน์ การทดสอบดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ปรึกษาทางการเงิน นักจิตวิทยา และโค้ชต่าง ๆ มักให้ทำแบบทดสอบการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนทางการเงิน สิ่งนี้มีประโยชน์มาก หากคุณต้องการแนวทางที่เหมาะกับตนเองและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยและองค์กรด้านวิทยาศาสตร์หลายแห่งทำการวิเคราะห์ในเรื่องจิตวิทยาการเงิน และอาจมีข้อเสนอให้ทำการทดสอบเรื่องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยได้ ปัจจุบัน การทดสอบนี้จะพบได้ตามงานสัมมนาเพื่อการศึกษาเฉพาะทางหรือสัมมนาออนไลน์ แต่ควรเช็คให้แน่ใจว่าวิธีการหรือแพลตฟอร์มที่คุณเลือกทำการทดสอบนั้นมีชื่อเสียงที่ดี และให้แนวทางที่มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับในการประเมินระดับการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

บัญชีทดลอง

การเทรดในบัญชีทดลองที่นำเสนอโดยบริษัทโบรกเกอร์ของ NordFX ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเสริมทักษะพื้นฐานและมีการดำเนินการเทรดบนแพลตฟอร์มเทรดจริง แต่ใช้เงินเสมือนจริง วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดมีความคุ้นเคยกับหน้าตาอินเทอร์เฟซและฟังก์ชันต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม ได้ฝึกเทรดโดยปราศจากความเสี่ยงทางการเงิน และทดสอบกลยุทธ์และอินดิเคเตอร์

การเทรดด้วยเงินเสมือนจริงไม่นำมาซึ่งความเครียดทางอารมณ์ที่เหมือนกับการเทรดด้วยเงินจริง อย่างไรก็ดี การฝึกฝนบนบัญชีทดลองที่นานเกินไปอาจทำให้เกิดความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จนเพิกเฉยต่อความเสี่ยงได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือทำความเข้าใจว่าความสำเร็จในบัญชีทดลองไม่ได้รับประกันความสำเร็จในตลาดจริง

ไดอารี่นักเทรด

ไดอารี่นักเทรดคือเครื่องมือที่ช่วยในการจัดระเบียบและวิเคราะห์กิจกรรมการเทรดของคุณ อาจมีการจดบันทึกทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บน Spreadsheet ของ Excel หรือ Google Sheets หรือจดในสมุดธรรมดา การจดบันทึกการเทรดประกอบด้วย วันที่ เวลา ราคาที่เปิดและปิดคำสั่งเทรด ปริมาณการเทรด ทิศทางการเทรด สินทรัพย์หรือคู่เงินที่เทรด ระดับ Stop Loss และ Take Profit และกำไรและการขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากการเทรด

การบันทึกเหตุผลที่เปิดคำสั่งเทรดเป็นสิ่งสำคัญ เหตุผล เช่น การวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์ข่าว สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ เป็นต้น รวมถึงเหตุผลที่ปิดการเทรด โดยใส่รูปภาพและกราฟประกอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในตลาดในขณะที่เปิดและปิดคำสั่งเทรดอาจมีประโยชน์ได้มาก นอกจากนี้ อาจอธิบายสภาพอารมณ์ของคุณก่อน ระหว่าง และหลังการเทรด การจดบันทึกเพิ่มเติมที่ช่วยให้เราเห็นภาพข้อผิดพลาดและบทเรียนต่าง ๆ จะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

ไดอารี่ดังกล่าวไม่ใช่แค่ให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเทรดของคุณเท่านั้น แต่ยังให้ความกระจ่างว่าทักษะการบริหารความเสี่ยง วินัย และการตอบสนองทางจิตวิทยาของคุณในสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกันเป็นอย่างไร การจดบันทึกอย่างเป็นประจำทันทีหลังจากการเทรดแต่ละธุรกรรมสามารถช่วยในการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดแบบเดิม ๆ ในอนาคตได้ แต่แน่นอนว่าความถี่ในการเทรดขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณโดยเฉพาะ แม้ว่าการจดบันทึกการเทรดสำหรับการเทรดระยะยาวและระยะกลางจะฟังดูตรงไปตรงมา แต่สำหรับการเทรดแบบเดย์เทรดจะมีความท้าทายมากขึ้น และการจดไดอารี่การเทรดแทบจะทำไม่ได้กับการเทรดแบบ scalping หรือการเทรดสั้นไม่กี่ pips

การทดสอบความเครียด

การทดสอบความเครียดสำหรับนักเทรดเป็นสถานการณ์หรือโมเดลเฉพาะทางที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินปฏิกิริยาตอบสนองของนักเทรดในสภาพตลาดที่สุดขั้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับสถานการณ์ตลาดจริง การทดสอบเหล่านี้ช่วยวัดความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของนักเทรดอย่างมีประสิทธิภาพและการตัดสินใจภายใต้แรงกดดันอย่างหนักภายนอก

ในระหว่างการทดสอบเหล่านี้จะมีการจำลองสถานการณ์ตลาดแบบสุดโต่งขึ้น มีความผันผวนราคาแบบผิดความคาดหมาย การเปลี่ยนแปลงในความผันผวน และสถานการณ์ที่ซับซ้อนอื่น ๆ ตลอดการจำลองสถานการณ์ นักเทรดจะต้องทำการตัดสินใจว่าจะซื้อ ขาย ตั้งค่าคำสั่ง ฯลฯ หลังการทดสอบจะมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับการตัดสินใจ ระดับวินัยที่ต้องรักษา ความทนทานต่อความเครียด และประสิทธิภาพของการบริหารความเสี่ยง การฝึกฝนดังกล่าวช่วยเพิ่มความสามารถให้คุณมีปฏิกิริยาที่เหมาะสมภายใต้สภาพแวดล้อมที่สุดโต่ง เข้าใจจุดบกพร่องในแนวทางการเทรดของคุณ และทำการปรับปรุงที่จำเป็นในที่สุด

ความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์การเทรด

ความเสี่ยงของข้อผิดพลาดในวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คืออะไร และมันมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน? นักเทรดมือใหม่ที่ผ่านการทดสอบทุกประเภทอย่างสำเร็จแล้ว จะไม่พร้อมสำหรับการเทรดด้วยเงินจริงได้หรือไม่?

อันดับแรกเลย สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงว่า การทดสอบด้วยแบบสอบถามและการทดสอบทางจิตวิทยานั้นอาศัยความตระหนักรู้และความซื่อสัตย์ในการตอบคำถาม มันอาจไม่ได้สะท้อนถึงสถานะจิตใจของเราได้อย่างแม่นยำเสมอไป อีกทั้ง การเทรดจริงมักมีความเครียดทางอารมณ์ในระดับสูงมาก ซึ่งยากที่จะจำลองสถานการณ์ได้เหมือนจริง ไม่มีนักเทรดมือใหม่คนไหนที่จะสะสมประสบการณ์ได้ทันที และหลายอย่างต้องมาจากการฝึกฝนและเวลา ผลลัพธ์การทดสอบที่สำเร็จอาจทำให้นักเทรดมั่นใจเกินตัว ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นและเสี่ยงสูง และนำไปสู่การขาดทุนเป็นเงินจำนวนมากได้ในที่สุด

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจก็คือ ตลาดการเงินนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การประกาศสถิติเศรษฐกิจมหภาค สถานการณ์ทางการเมือง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และแม้แต่จิตวิทยาของคนหมู่มาก ทั้งหมดนี้ไม่สามารถนำมาจำลองในสถานการณ์จำลองหรือการทดสอบได้ ดังนั้น แม้ว่าวิธีการที่กล่าวถึงในที่นี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการตระหนักรู้และการส่งเสริมทักษะให้กับตนเอง แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ประสบการณ์จริงและควรถือว่าเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยหลาย ๆ ประการในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเทรด


« บทความมีประโยชน์
ติดตามเรา (ในโชเซียลเน็ตเวิร์ค)